
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ Coal-Fried Power Plant ได้เกาะติดสถานการณ์ขาดแคลนพลังงานของกลุ่มประเทศยุโรปในช่วงฤดูหนาวนี้ โดยล่าสุดโพสต์ระบุว่า..

แทนซาเนียคาดว่าประเทศจะมีรายได้จากการส่งออกถ่านหินเพิ่มเป็นเท่าตัว
- ผู้ซื้อกระเป๋าหนักจากยุโรป... จ่ายไม่อั้น
- ประเทศไร้ทางออกทะเลอย่างบอสวานาได้อานิสงส์ ส่งถ่านหินขายทวีปยุโรป
แต่ก่อนแต่ไร แทนซาเนียเคยแต่ส่งถ่านหินไปขายให้เพื่อนบ้าน นั่นเพราะท่าเรือที่ใกล้ที่สุดที่จะส่งถ่านหินข้ามมหาสมุทรไปยังทวีปยุโรป อยู่ไกลจากเหมืองถ่านถึง 600 กิโลเมตร
Tanzania traditionally exports thermal coal only to neighbouring countries in east Africa; sending it further afield was out of the question, as it required trucking the material more than 600 km from mines in its southwest to Mtwara, the nearest Indian Ocean port.
วิกฤตขาดแคลนพลังงาน ส่งให้ความต้องการถ่านหินของทวีปยุโรปเพิ่มมากขึ้น ไม่หวั่นว่าราคาจะแพง ระยะทางจะแสนไกล ขอเพียงให้ได้ซัพพลายถ่านหินมาสำรองไว้ใช้ผลิตไฟฟ้า และสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน ในฤดูหนาวที่ใกล้มาถึง.....การตามล่าหาถ่านหินของผู้ซื้อชาวยุโรปในตอนนี้ขยายไปไกลถึงแทนซาเนีย บอสวานา ไม่เว้นแม้แต่มาดากัสการ์
รัฐบาลยุโรปห้ามนำเข้าเชื้อเพลิงรัสเซีย ผนวกกับมาตรการจำกัดเพดานราคาพลังงาน ส่งให้ถ่านหินกลับมาเป็นที่ต้องการในยุโรป สวนทางกับนโยบายตอกฝาโลงถ่านหินจากการประชุม COP ปีที่แล้ว
“หลังเหตุรัสเซียบุกยูเครน บริษัทนำเข้าเชื้อเพลิงจากยุโรปจะตามไปทุกที่ ที่มีถ่านหิน” เป็นคำกล่าวของ Rizwan Ahmed กรรมการผู้จัดการบริษัทเหมืองถ่านหิน Bluesky Mining และเสริมต่อว่า “คนกลุ่มนี้ เสนอราคาที่ยากปฏิเสธ”
การขนส่งถ่านหินไปยังยุโรปเพิ่มขึ้น นาย Jan Dieleman ประธานบริษัท Cargill ขนส่งสินค้าทางทะเลให้ข้อมูลว่า ในช่วงระหว่างมิถุนายนถึงสิงหาคม บริษัทรับงานขนส่งถ่านหินทางทะเล 9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2 ล้านตัน
ยุโรปกำลังกระโจนเข้าสู่สมรภูมิแย่งชิงพลังงานโลก ภาวะปัจจุบันที่ราคาถ่านหินถูกกว่าก๊าซ คาดว่ายุโรปจะขยายวงกว้านซื้อถ่านหินต่อไปถึงโคลอมเบีย แอฟริกาใต้ และที่ไกลออกไป
ราคาถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประเทศที่มีแหล่งถ่านหินเล็งเห็นโอกาสทำเงิน ดัชนีราคาถ่านหินโลก ท่าเรือ Newcastle เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 อยู่ที่ตันละ 429 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 176 เหรียญ เมื่อปีที่แล้ว
ตั้งแต่ท่าเรือ Mtwara ของแทนซาเนีย เริ่มขนส่งถ่านหินเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีเรือขนถ่านหินออกจาก Mtwara ทั้งสิ้น 13 ลำ ล่าสุดคือ เรือ MV Miss Simona ขนาดระวาง 34,529 ตัน ออกจากท่าเมื่อกลางเดือนกันยายน ปลายทางคือฝรั่งเศส
ถ่านหินยังพอหาได้ แต่เรือขนส่งนี่สิ....ตั้งแต่ปลายมิถุนายน มี 57 คำสั่งซื้อถ่านหิน ที่กำลังรอเรือขนส่งให้ว่างมารับงาน
ปริมาณการขนส่งถ่านหินทางทะเลของโลก แตะระดับสูงสุดที่ 97.8 ล้านตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ก่อนจะตกลงมาอยู่ที่ 89 ล้านตัน ในเดือนสิงหาคม จากอุปสรรคการส่งออกถ่านหินของผู้ผลิตรายใหญ่ในออสเตรเลีย

แทนซาเนียคาดว่าตัวเลขส่งออกถ่านหินของปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ที่ประมาณ 696,773 ตัน ในขณะที่กำลังการผลิตถ่านหินของประเทศจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เป็น 1,364,707 ตัน รายรับจากภาษีส่งออกถ่านหินทำให้รัฐบาลพิจารณาโครงการทางรถไฟเชื่อมต่อพื้นที่ทำเหมืองกับท่าเรือ Mtwara
Ruvuma บริษัทเหมืองถ่านหินรายใหญ่ของแทนซาเนีย ส่งออกถ่านหินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน ผู้ซื้อประกอบด้วย เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และอินเดีย
ยุคทองของชาวเหมืองถ่าน
นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษา Thunder ประเมินว่าถ่านหินที่ขายปลายปี 2563 ที่ราคาตันละ 75 เหรียญ จะทำให้ผู้ผลิตได้กำไร 15 เหรียญต่อตัน ในขณะที่ราคาขายถ่านหินปัจจุบันแตะที่ตันละ 400 เหรียญ กำไรจะเป็นเท่าไหร่ $$$$$
ความจริงก็คือ... ผู้ซื้อจากยุโรปยินดีจะจ่ายเป็นสองเท่าของราคาที่ผู้ซื้อเอเชียเสนอ เป็นคำกล่าวของนาย Ahmed บริษัท Bluesky ที่มีผู้ซื้อจากเยอรมนี โปแลนด์ และอังกฤษ ทาบทามให้จัดหาถ่านหินให้
Indeed traders in Europe are willing to pay twice the price quoted by Asian buyers, according to some mine executives such as Bluesky's Ahmed
บอสวานา ไร้พรมแดนติดทะเล ไม่เคยคิดฝันจะได้ส่งถ่านหินไปขายไกลกว่าแอฟริกาใต้ นามิเบีย ซิมบับเว ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยราคาที่เป็นใจ ทำให้บอสวานาสามารถส่งออกถ่านหิน 2 ลำเรือ ลำละ 30,000 ตัน ผ่านท่าเรือ Walvis Bay ของนามิเบีย และ 2 ขบวนรถไฟ ไปยังท่าเรือ Maputo ของโมแซมบิก
แม้แต่มาดากัสการ์ ประเทศผู้ส่งออกวานิลลารายใหญ่สุดของโลก ก็พลิกผันจะหันมาส่งออกถ่านหินด้วยเช่นกัน ตามคำกล่าวของเจ้าชาย Nyait ประธานบริหารของบริษัทที่กำลังพัฒนาโครงการเหมืองถ่านหินในมาดากัสการ์


ถ่านหินได้รับการโอบอุ้ม
ยุโรปนำเข้าถ่านหินผลิตไฟฟ้าจากออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย (ที่เดิมส่งถ่านหินให้แต่ลูกค้าในเอเชีย) เพิ่มขึ้น 11 เท่า ในช่วงเวลา 4 เดือน หลังเหตุรัสเซียบุกยูเครน
ยุโรปรวมตัวกันคว่ำบาตรรัสเซีย พยายามเลิกพึ่งพาก๊าซรัสเซีย ห้ามนำเข้าถ่านหินรัสเซีย ทั้งที่ก่อนหน้ายุโรปนำเข้าถ่านหินรัสเซียร้อยละ 70 และก๊าซรัสเซียร้อยละ 40 ของที่ใช้ ส่งผลให้บริษัทผลิตไฟฟ้าในยุโรปต้องวิ่งวุ่นควานหาเชื้อเพลิง
เมื่อเข้าตาจน ยุโรปต้องยอมวางเป้าหมายลดโลกร้อนลง หันไปกักตุนฟอสซิล ไฟเขียวเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ถูกสั่งปิดไปแล้ว ดิ้นทุกทางเพื่อจะผ่านฤดูหนาวไปให้ได้ (ผ่านหนาวนี้ อย่าคิดว่าจะรอด ต้องวัดดวงกับหนาวหน้าๆๆๆ อีก)
ผลคือปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหินในยุโรป เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 25 ทั้งๆ ที่ สหภาพยุโรปรณรงค์ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วทั้งทวีป มาตลอดสามปี
การกลับมาของถ่านหินทำให้เป้าหมายลด CO2 ของหลายประเทศล้มเหลว แม้รัฐบาลแก้เก้อว่าถ่านหินจะกลับมาเพียงชั่วคราว แต่ใครจะบอกได้ว่าวิกฤตพลังงานจะจบลงเมื่อใด แม้แต่เยอรมนีที่มั่นหน้ากับพลังแดดและลมอย่างเหลือแสน ยังต้องยอมยืดอายุโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้าไว้
Minergy บริษัทเหมืองถ่านหินในบอสวานา มองว่า ความต้องการถ่านหินจะร้อนแรงเช่นนี้ไปจนถึงกลางปีหน้า หรือนานกว่านั้น ทำให้บริษัทตัดสินใจจะเพิ่มกำลังการผลิตถ่านหินเป็นสองเท่า
ผู้คนข้ามผ่านเรื่องเล่าแย่ๆ เกี่ยวกับถ่านหิน หันกลับมายอมรับมันในฐานะเชื้อเพลิงที่ยังพอมีให้ใช้ในยามวิกฤต เช่นตอนนี้
"The negative narrative surrounding coal has been abandoned, and coal has been embraced as the go-to energy source in the energy crises arising from the war," the company said.
ถ้าอยากมีไฟฟ้าใช้ ต้องยอมกลับไปใช้ถ่าน ง่ายๆ แค่นี้ ทำไมผู้นำอียูคิดไม่ตก หาเรื่องทำคนเดือดร้อนไปทั้งทวีป... ระวัง งานเข้า จะจบไม่สวยเอานา
ที่มา : Coal rush! Energy crisis fires global hunt for polluting fuel, Reuters, Sep 20, 2022
https://www.reuters.com/markets/commodities/coal-rush-energy-crisis-fires-global-hunt-polluting-fuel-2022-09-20/