
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย หรืออาจารย์หมู คอลัมน์นิสต์และผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศ เผยแพร่บทวิเคราะห์ “ยุทธศาสตร์ฉบับใหม่สหรัฐอเมริกา..จากผู้นำโลก สู่การอยู่รอดของสหรัฐฯในหลายมิติ” มีสาระสำคัญที่น่าสนใจ..

เป้าหมายหลักของ U.S. National Security Strategy หรือยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของสหรัฐฯ คือ…
‘คงไว้ซึ่งความอยู่รอดของสหรัฐ’ ดินแดน ประชาชน เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประเทศ ให้ ‘ปลอดภัย’ จากการโจมตีของทหาร หรืออิทธิพลต่างชาติ
ลดบทบาทของพหุภาคี
เขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ สหรัฐฯ จะไม่แบกรับภาระโลกอีกต่อไป
ในอดีตสหรัฐฯ มีนโนบาย Global Leadership หรือ ‘ผู้นำโลก’
แต่ยุทธศาสตร์ใหม่ สหรัฐฯ ต้องการ ‘ลดบทบาท’ ผู้นำโลก
เป้าหมายของสหรัฐฯ ต้องการลดลงมาเหลือเพียงมีอำนาจเหนือภูมิภาคอเมริกาเหนือและใต้เป็นลำดับต้นๆ
ลดการทุ่มเททรัพยากรทางทหารและความสนใจในเวทีเก่าที่สหรัฐฯ เคยมองว่ามีความสำคัญ
สหรัฐฯ จะเน้นการเสริมกำลังของกองทัพเรือและหน่วยลาดตระเวนทางทะเลเพื่อควบคุมการอพยพผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติด และเสริมความมั่นคงตามเส้นทางการเดินเรือและชายฝั่งในภูมิภาคอเมริกา
ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ จะไม่ผลักดันให้ประเทศอื่นต้องยอมรับระบบประชาธิปไตย หรือเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง ตามค่านิยมของสหรัฐฯ
ถ้าวิถีของประเทศอื่นแตกต่างจากของสหรัฐฯ ก็ไม่ใช่เรื่องที่สหรัฐฯ จะเข้าไปยุ่ง
สหรัฐฯ จะลดบทบาทของพันธมิตรระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศลง และจะร่วมมือเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสหรัฐฯ เป็นหลัก
ส่องยุทธศาสตร์ฉบับใหม่สหรัฐอเมริกา
สหรัฐฯ จะร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในมิติเศรษฐกิจเป็นหลัก
ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐจะไม่เรียกจีนว่า ‘ภัยคุกคามใหญ่สุด’ เหมือนสมัยก่อน
แต่จะเน้น ‘สมดุลทางเศรษฐกิจ’ กับจีน เพื่อรักษาอิสรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ก็จะเน้นเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
เตรียมความพร้อมทางทหารเพื่อป้องกันการรุกรานในแนวโซ่เกาะ หรือ First Island Chain
รวมถึงการปกป้องสถานะของไต้หวัน ซึ่งสหรัฐ ยังคงถือเรื่องการรักษาสถานภาพของไต้หวันเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญของตนเอง

สหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรเดิมในยุโรปค่อนข้างแรง
พูดถึงประเด็นการอพยพ การขาดความเป็นตัวแทนของอารยธรรมยุโรป
และยังตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของพันธมิตรยุโรปในระยะยาว
นักยุทธศาสตร์อเมริกัน โดยเฉพาะสายอนุรักษนิยมสายเหยี่ยว มองยุโรปว่า เป็นกลุ่มประเทศกระจอกงอกง่อยที่ป้องกันตัวเองไม่ได้
เป็นกลุ่มประเทศเกาะ
“…describe Europe as a small island clinging to the United States for security.”
ยุโรปเป็นเกาะเล็กที่มาเกาะสหรัฐฯ เพื่อความมั่นคง
ไม่ได้หมายความว่า อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ฯลฯ อยู่บนเกาะ แต่เป็นประเทศปลิงที่คอยเกาะสหรัฐฯ เพื่อความปลอดภัยทั้งทางทหารและเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ ยังมองเห็นประโยชน์ของยุโรปอยู่บ้างตรงเป็นฐานทัพและโลจิสติกส์สำคัญ
เป็นตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่
เป็นพันธมิตรที่จะใช้สู้กับรัสเซีย (หากจะต้องสู้กันจริงๆ ในอนาคต)
“รัสเซีย” ไม่ใช่ภัย!
ยุทธศาสตร์ก่อนๆ ของสหรัฐฯ มองว่ารัสเซียเป็นภัยสำคัญ แต่ในเอกสารยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ได้เอ่ยถึงว่ารัสเซียเป็นภัยสำคัญแต่อย่างใด

สหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความสำคัญภูมิภาคตะวันออกกลางเหมือนในอดีตแล้ว
ในอดีตสหรัฐฯ มียุทธศาสตร์เข้าไปแทรกแซง สร้างระเบียบ ส่งเสริมประชาธิปไตยในภูมิภาคตะวันออกกลาง
แต่ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ใช่แล้ว
ยุทธศาสตร์ใหม่คือ การมีปฏิสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์ที่สหรัฐฯ ใช้คำว่า pragmatic มากกว่าอุดมการณ์
ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้กลุ่มประเทศปลิงทั้งหลายกลัวจนไส้ขยายไหลออกมานอกตูด
ประเทศพวกนี้แต่เดิมมีพฤติกรรม ‘โชว์กร่าง อ้างลูกพี่ (สหรัฐฯ)’
ทว่าตอนนี้โป๊ะแตกแล้ว
1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป พวกยุโรปต้องหดคอเหมือนนกกระติ๊ด
หากยังกร่างเหมือนเดิมก็มีโอกาสที่จะโดนจีนและรัสเซียเคาะหัวโน
ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ บอกกับเราว่า
สหรัฐฯ กำลังถอยออกจากบทบาท global policeman หรือ WOL (World Order Leader)
ผมหมายถึง สหรัฐฯ กำลังถอยออกจากบทบาทผู้พิทักษ์โลก และมุ่งไปที่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นอันดับแรก
ทว่าถ้า ‘จำเป็น’ สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะเข้าไปครอบงำบริเวณที่มีความสำคัญ (ต่อสหรัฐฯ) เช่น กลุ่มประเทศตะวันตก ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มากกว่าการเป็นพันธมิตรแบบโครงข่ายระหว่างประเทศ
รัฐบาลไทยต้องรีบประชุมสุมหัวเพื่อนำยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ มาวิเคราะห์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และอ่านเกมโลกใหม่ให้ออก
และโปรดทราบว่า ความร่วมมือแบบเดิมๆ อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว!