
บอร์ด ทอท. ไฟเขียว แก้สัมปทานดิวตีฟรี คิงเพาเวอร์ จากที่ตั้งแท่นรื้อผลตอบแทนขั้นต่ำ กลับเลยเถิดสู่ขยายสัญญาดอนเมือง 5 ปี แถมสุวรรณภูมิอีก 2 ปี อ้างเพื่อบริการผู้โดยสารได้ต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงขาดรายได้ดีกว่าเลิกสัญญาประมูลใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2568 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. โดย นายกฤช ภาคากิจ เลขานุการบริษัท ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ฝ่ายเลขานุการองค์กรและกำกับดูแลกิจการ ได้แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. ว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 18/2568 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจําหน่ายสินค้าปลอดอากรของบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ตามผลการเจรจาของคณะทํางานเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.

โดยได้พิจารณาทางเลือกหลัก 2 แนวทาง คือ การแก้ไขสัญญาเปรียบเทียบกับการยกเลิกสัญญาเพื่อเปิดประมูลใหม่ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด คือการแก้ไขสัญญา โดยปรับเงื่อนไขการอนุญาตให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อให้ ทอท. สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพราะ ทอท. ไม่ต้องดำเนินการหาผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณ อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนจากการหาผู้ประกอบการรายใหม่มาทดแทน ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 14 เดือน
การเลือกแนวทางการแก้ไขสัญญาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อ ทอท.มากกว่ากว่าการยกเลิกสัญญาแล้วเปิดประมูลใหม่ โดยกรณียกเลิกสัญญา ทอท.จะขาดรายได้จากค่าผลประโยชน์ตอบแทนจนกว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาดำเนินการแทน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 14 เดือน และผู้ประกอบการรรรายใหม่อาจไม่สามารถให้ค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ ทอท. ได้ในระดับที่เทียบเท่าหรือสูงกว่าผู้ประกอบการรายปัจจุบัน (จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและในระดับโลก) ซึ่งในแต่ละสัญญายังคงเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1) การเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee : MG) โดย ทอท. จะยังคงได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (MG) และค่าผลประโยชน์ตอบแทนชั้นต่ำมีอัตราเติบโตร้อยละ 5 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมกายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2) ส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 20 (Revenue Sharing) และ 3) ค่าผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่ม (Upside) หากเข้าเงื่อนไขที่กำหนด โดยมีรายละเอียดของแนวทางการแก้ไขโนแต่ละท่าอากาศยาน ดังนี้
1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขยายเวลาอีก 2 ปี โดย ทอท. ยังคงการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนชั้นต่ำต่อหัว (MG) ตามหลักการเรียกเก็บตามจำนวนผู้โดยสารเช่นเดิม โดยเรียกเก็บเป็นรายปี (เทียบเท่า 232.90 บาทต่อคนและมีการเติบโตในอัตราร้อยละ 5 ทุกปีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ทอท.ได้เจรจาทำให้ได้ส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Shaine) ส่วนเพิ่มอีกร้อยละ 35 ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสาร (Spending per Head) ส่วนเกิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทอท.มีโอกาสในการมีรายได้เพิ่มในกรณีที่สถานการณ์อุตสาหกรรมการบินปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมากกว่าสัญญาเดิมที่เรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้เพียงร้อยละ 20 ตลอดอายุสัญญา
ขยายระยะเวลาของสัญญาออกไปอีก 2 ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างในส่วนของอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) แล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ.2575 การขยายระยะเวลาของสัญญาดังกล่าวจะครอบคลุมช่วงที่ต้องปิดซ่อมแชมพื้นที่ทุกส่วนในอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ประกอบการ KPD ใช้ดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน ระหว่างปี พ.ศ.2575 – 2578

2. ท่าอากาศยานดอนเมือง เก็บส่วนแบ่งรายได้ 20% ยืดสัญญา 5 ปี โดย ทอท. ยังคงการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อตารางเมตร (โดยคิดเป็น 39,187.76 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน) และเรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharine) ที่ร้อยละ 20 ตามสัญญาเดิม และหากอัตราการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารกลับมาเกินร้อยละ 100 ทอท.จะกลับไปใช้อัตราคำผลประโยชน์ตอบแทนชั้นต่ำต่อตารารางเมตรตามที่เคยตกลงไว้ก่อนหน้า
ขยายระยะเวลาของสัญญา เนื่องจากตามแผนพัฒนาท่าอากาศยาน ผู้ประกอบการปัจจุบันมีความจำเป็นต้องย้ายไปให้บริการ ณ อาคารผู้โดยสาร 3 และรื้อถอนการลงทุนในอาคารผู้โดยสารเดิมออก ผลการศึกษาพบว่า หากมีการลงทนในพื้นที่ใหม่สำหรับธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากร จะมีระยะเวลากาการประกอบกิจการที่เหมาะสมจากการลงทุนใหม่นั้นประมาณ 5 ปี ดังนั้น การขยายระยะเวลาของสัญญาที่เหมาะสมและสร้างแรงจูงใจในการย้ายอาคารผู้โดยสาร คือ 5 ปี (นับรวมอายุสัญญาคงเหลือ)
กล่าวคือ หากระยะเวลาจากสัญญาเดิมเหลือ 3 ปี ในวันที่อาคารผู้โดยสาร 3 แล้วเสร็จ ระยะเวลาคุ้มทุนคือ 5 ปี ดังนั้น ระยะเวลาที่เหมาะสมในการขยายสัญญาอยู่ที่ 2 ปี อย่างไรก็ตาม หากการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 3 ล่าช้าออกไปจนทำให้สัญญาประกอบกิจการของ KFD ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ปัจจุบันคงเหลืออายุสัญญาไม่ถึง 1 ปี ณ วันเปิดอาคารผู้โดยสาร 3 อย่างเป็นทางการ ทอท. ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณายกเลิกสัญญาของ KPD ปัจจุบัน เพื่อเปิดประมูลใหม่

3. ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ท่าอากาศยานภูมิภาค) โดย ทอท. ยังคงการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (MG) ตามหลักการเรียกเก็บตามจำนวนผู้โดยสารเช่นเดิม โดยเรียกเก็บเป็นรายปี (เทียบเท่า 129.67 บาทต่อคน และมีการเติบโตโนอัตราร้อยละ 5 ทุกปีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2573 เนื่องจากสภาพการใช้จ่ายของผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูมิภาค และปริมาณผู้โดยสารปรับตัวลงอย่างมากภายหลังสถานการณ์โควิด-19 หรือเทียบเท่าค่าเฉลี่ยตลอดสัญญาที่ 134.70 บาทอคน) อีกทั้ง ทอท. ได้เจรจาทำให้ได้ส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ส่วนเพิ่มอีกร้อยละ 35 ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสาร (Spending per Head) ส่วนเกิน เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้เช่นเดียวกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทอท. มีโอกาสในการมีรายได้เพิ่มเติมในกรณีที่สถานการณ์อุตสาหกรรมการบินปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมากกว่าสัญญาเดิมที่เรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้เพียงร้อยละ 20 ตลอดอายุสัญญา
ทั้งนี้ ภายหลังการแก้ไขสัญญาแล้ว ในอนาคตหากธุรกิจกลับมาเหมือนเติมตามข้อเสนอการดำเนินงานกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Proposal) ของ ของ KPD ทอท. ขอสงวนสิทธิ์ที่จะขอเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนเดิม ตามที่ KPD เสนอใน Proposal

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาขอแก้ไขสัญญาสัมปทานดังกล่าว เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัทคิงเพาเวอร์ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอแก้ไขสัญญาสัมปทาน โดยขอยกเลิกการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ Minimun Guarantee โดยอ้างว่าทำให้บริษัทเสียเปรียบ โดยจะขอจ่ายเฉพาะส่วนแบ่งเฉพาะค่าสัมปทานรายปีเช่นโครงการอื่นๆ แต่สุดท้ายการเจรจากลับกลายเป็นการขยายสัญญาสัมปทาน โดยไม่มีการพูดถึง Minimim Guarantee แต่อย่างใด ทำให้คาดว่าในอนาคตอันใกล้คงจะมีการตั้งแท่นแก้ไขสัญญาในส่วนนี้เพิ่มเติม