
การเมืองล้วงลูกหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ กสทช. เต็มคาราเบล "นายกฯ อนุทิน" เซ็นตั้งเลขาประจำตัวประธาน กสทช. นั่งแท่นที่ปรึกษา รมต.มหาดไทย จับตาอนาคตทุนการเมืองล้วงลูกกองทุน USO มันมือ
หลังจากหลายฝ่ายได้ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี กับ ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นักกฎหมายชั้นแถวหน้าของเมืองไทย ที่ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาลในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย และ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วย ศ.บวรศักดิ์นั้น ทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษากฎหมายของประธาน กสทช. อยู่ด้วย

ล่าสุด นายกฯ อนุทิน ในฐานะ รมว.มหาดไทย ยังได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำนวน 5 คน โดย มี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำตัว ศ.คลินิก นพ.สรณ ประธาน กสทช. เป็น 1 ใน 5 คณะที่ปรึกษา รมต.มหาดไทย ด้วย ทำให้เกิดการวิพากษ์อย่างกว้างขวางว่า มีความถูกต้อง เหมาะสม ขัดจริยธรรมหรือไม่
เนื่องจาก กสทช. เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เพื่อให้การทำงานของ กสทช. มีความเป็นอิสระปลอดการแทรกแซงทางการเมืองเฉกเช่นองค์กรอิสระโดยทั่วไป การที่ พ.ต.อ.ประเวศน์ ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวประธาน กสทช. ดอดไปรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ และ รมต.มหาดไทย จึงก่อให้เกิดข้อกังขาว่า มีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด จะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของหน่วยงานหรือไม่ เป็นการดึงอำนาจฝ่ายเข้ามาล้วงลูกหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อมีกระแสกดดันให้นายกรัฐมนตรีให้เดินหน้ากระบวนการทูลเกล้าฯ ให้ประธาน กสทช. ต้องพ้นจากตำแหน่งจากปมการขาดคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ (พ.ร.บ.กสทช.) ก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ ได้มีการเปิดเผยภาพถ่ายการร่วมหารือระหว่างนายกฯ อนุทิน กับ ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ โดยมีภาพ ศ.คลินิก นพ.สรณ ร่วมอยู่ในวงสนทนาด้วย ซึ่งก่อให้เกิดข้อวิพากษ์อย่างกว้างขวางต่อการที่หน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระเข้าไปคลุกคลีกับฝ่ายการเมือง อันเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่าง "นายกฯ อนุทิน – นพ. สรณ และ ศ.ดร.บวรศักดิ์" ที่ผูกโยงเข้าหากันอย่างแน่นแฟ้น ท่ามกลางการจัดสรรงบ USO มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
โดยมีโครงการสำคัญภายใต้แผนนี้ อาทิ โครงข่ายไฟเบอร์ออปติกสำหรับโรงเรียนคุณภาพ 1,808 โรงเรียนงบประมาณ 1,200 ล้านบาท โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายสำหรับงานวิจัยขั้นสูงของประเทศงบ 3,402.82 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายด้านโครงข่าย 2,100 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมกว่า 600 ล้านบาท ทั้งสองโครงการอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและทั้งนวัตกรรม (อว.) ที่ถูกวางรากฐานไว้ในยุครัฐมนตรีจากภูมิใจไทย แต่ต้องมาสะดุดเอาเมื่อมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลก่อนหน้านี้ เมื่อพรรคภูมิใจไทยกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกหน หลายฝ่ายจึงเชื่อว่ากองทุน กทปส. หรือกองทุน USO คงจะถูกล้วงตับอีกครั้ง

หมายเหตุ: อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เนตรทิพย์ออนไลน์: Special Report
เปิดสัมพันธ์ลึก “อนุทิน–บวรศักดิ์- สรณ” ที่แท้คน "กากี่นั๊ง" แล้ว กสทช. - USO จะเป็นอย่างไร?
https://www.natethip.com/news.php?id=10941
