
นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟ เอส เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA บริษัทย่อยของบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) และในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นกลุ่มพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลออสเตรเลียประกาศคุมเพดานราคาถ่านหินในประเทศ ซึ่งคาดว่ากระทบกับหุ้น Banpu ไม่มาก เนื่องจากบริษัทจำหน่ายถ่านหินภายในประเทศออสเตรเลียประมาณ 60-70% โดยที่เหลือส่งออกเล็กน้อย
ทั้งนี้ ประเมินว่า หากมาตรการดังกล่าวออกมาใช้ จะกระทบต่อกำไรสุทธิของ Banpu 1,000-2,000 ล้านบาทต่อไตรมาสเท่านั้น ซึ่งธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลียไม่ได้เป็นตัวทำกำไรให้บริษัท ส่วนใหญ่จะขาดทุนหรือเท่าทุน แต่ถ่านหินที่ทำกำไรให้บริษัทจะอยู่ที่อินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของ Banpu ในไตรมาสที่ 4/2565 คาดว่า จะออกมาดี และปี 2565 อาจะได้เห็นกำไรสุทธิทั้งปีกว่า 50,000 ล้านบาท และยังเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับราคาหุ้น Banpu ที่ปรับลงมองว่า มีดาวน์ไซด์ที่้จำกัดแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลง
อนึ่ง กรณีรัฐบาลออสเตรเลียจะควบคุมเพดานราคาถ่านหินนั้น คาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ โดยการควบคุมราคาถ่านหินในครั้งนี้ เพื่อลดภาระครัวเรือนด้านปัญหาราคาค่าไฟในประเทศ โดยกำหนดให้บริษัทที่ดำเนินกิจการเหมืองถ่านหินต้องสำรองการผลิตไว้สูงถึง 10% สำหรับอุปทานในประเทศ
นอกจากนี้ ช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทดำเนินธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลีย ยังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการก่อนหน้านี้ โดยการตั้งเพดานราคาขายถ่านหินในประเทศของรัฐนิวเซาท์เวลลส์และควีนแลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถ่านหินจำนวนมากที่สุดของประเทศไว้ที่ 125 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน เป็นเวลา 12 เดือนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น Banpu ปิดการซื้อขายที่ 11.60 บาท ปรับตัวลดลง .40 บาท โดยนักลงทุนกำลังจับตาผลประกอบการไตรมาสที่ 4/2565 ที่คาดว่าจะออกมาดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะประกาศประมาณวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นี้
และที่สำคัญมีการจับตาประเด็นการจ่ายเงินปันผลของ Banpu ที่คาดว่าจะจ่ายในอัตราที่สูงกว่าที่จ่ายปันผลไปแล้วงวดแรกเมื่อ 14 กันยายน 2565 ในอัตรา 0.45 บาท