
ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้โพสต์ในหัวข้อ “3 หายนะจากเสาไฟกินรี!” โดยระบุว่า..
1. คอร์รัปชัน[1]..
- เป็นการหาผลประโยชน์จากช่องว่างของกฎหมายและนโยบายที่ดีของรัฐ แม้บางกรณีเป็นการจัดซื้อเพื่อเอาใจชาวบ้าน ไม่ได้หวังเงินทอง แต่การหวังผลทางการเมืองที่ทำให้ประโยชน์ส่วนรวมเสียหายก็คือคอร์รัปชันเช่นกัน
- กรณีนี้ให้เห็นว่า การเอาผิดคนโกงโดยยึดเพียงตัวกฎหมายยังไม่พอ ต้องดูกระบวนการตัดสินใจ ความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองต่อประชาชน ว่ามีมากแค่ไหน บริสุทธิ์ใจเต็มที่แล้วหรือยัง เพราะการโกงไม่มีแค่ช่วงประมูลราคาแต่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนการจัดซื้อฯ
- ประเด็นนี้หน่วยตรวจสอบอย่าง ป.ป.ช. สตง. ควรร่วมกันเสนอทางป้องกัน อนึ่งการตรวจสอบอาจต้องโยงถึงผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ขายต้องใช้มาตรการทางภาษีและบัญชีเป็นเครื่องมือด้วย
2. บั่นทอนคุณค่าและระบบประชาธิปไตยในการปกครองส่วนท้องถิ่น..
- ในสภาพที่ประชาชนถูกตัดออกจากสมการ “สิทธิ์และอำนาจ” ที่จะรับรู้และมีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณ – การวางแผนบริหารจัดการเพื่อประโยชน์ชุมชน นักการเมืองจึงกล้าใช้อำนาจตามอำเภอใจ ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนและการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ
- การขาดบทเรียน ขาดทางเลือก ประชาชนจำนวนมากจึงสนใจเพียงผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่จับต้องได้มากกว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการกระจายอำนาจการปกครองสู่ชุมชนที่ถูกละเลย
- ประเด็นนี้กระทรวงมหาดไทยควรแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงคณะกรรมการปฏิรูปฯ นักวิชาการและสถาบันพระปกเกล้า ควรร่วมกันเสนอแนะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระยะยาว
3. ทำลายศิลปวัฒนธรรม[2] ..
- ข้ออ้างว่าสร้างเสาไฟเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของชุมชน ควรใช้สติปัญญาออกแบบให้สะท้อนลักษณะพิเศษของท้องถิ่นได้จริง ตัวชิ้นงานจะผลิตจากปูนปั้นงานดินเผาหรือโลหะหล่อก็รับได้ แต่กลับเลียนแบบกันซื้อของโหลรูปสัตว์สิบสองราศี สัตว์หิมพานต์ ช้างม้าที่ปั๊มจากโรงงานแต่ราคาแพงมหาโหด
- ประเด็นนี้ไม่ควรปล่อยเป็นตราบาปของ อปท. กรมโยธาฯ กรมทางหลวงและภาคการท่องเที่ยว แต่คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองของแต่ละจังหวัดและกระทรวงวัฒนธรรมควรร่วมรับผิดชอบ
หมายเหตุ:
บทความโดย ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
อ้างอิง..
[1] "มองลึกเสาไฟกินรี" มานะ นิมิตรมงคล, 10 กรกฎาคม 2564
[2] “เสาหงส์-นางเรียง vs. เสากินรี: จากวิถีวัฒนธรรมสู่นโยบายลอกตามกันแบบมักง่าย” #เพ็ญสุภาสุขคตะ, มติชนสุดสัปดาห์ 2-8 กรกฎาคม 2664 น. 67