
ไทย-กัมพูชา เปิดศึกสู้รบกันมาตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างหนักหน่วงรุนแรง มีการขยายพื้นที่การสู้รบมากกว่ายุค “รัฐบาลแพทองธาร”
ประชาชนตามแนวชายแดน 6 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว และตราด ต้องทิ้งบ้านเรือนเพื่ออพยพหนีภัยสงครามมาอยู่ในศูนย์พักพิง ไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจตระเวนชายแดน เสียชีวิต 9 นาย (11 ธ.ค.68) บาดเจ็บกว่า 120 นาย ประชาชนเสียชีวิต (ทางอ้อม) 4 ราย

วันก่อน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า การลงพื้นที่ในหลายจุดสิ่งที่ได้เห็นพบว่าบางศูนย์พักพิงยังไม่มีความพร้อม ทั้งเรื่องอาหารการกินและของใช้ส่วนตัว ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย สั่งการให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยทางรัฐบาลสั่งการมาแล้วพื้นที่ต้องรีบรับนโยบายไปดำเนินการปฏิบัติ จึงได้พูดคุยกับหลายภาคส่วน คาดว่าภายในวันที่ 10 ธ.ค. ตอนเย็น หรือพรุ่งนี้เช้า (11 ธ.ค.) ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และทุกศูนย์ต้องมีความพร้อมจริงๆ
เนื่องจากสิ่งที่ได้รับมา คือการบอกกล่าวว่าศูนย์ได้งบประมาณไม่เพียงพอ ต้องแบ่งอาหารกันกิน จึงขอความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน โดยต้องยอมรับว่ามีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นจริง บางศูนย์พักพิงบอกว่าประชาชนต้องออกเงินกันเอง ซึ่งยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่มีคนให้ข้อมูลมา แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

ส่วนที่มีเสียงสะท้อนว่า งบมาไม่ถึงนั้น น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ผวจ.ศรีสะเกษ มีงบที่รัฐบาลขยายให้เป็นหลัก 100-200 ล้านบาท แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการใช้อาจจะยาก เพราะต้องโอนงบไปตามอำเภอต่างๆ และปลัดมหาดไทยยืนยันว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย โดยจากการตรวจสอบพบปัญหายังไม่มีการเบิกจ่ายตั้งแต่ในการอพยพครั้งที่แล้ว เมื่อเจอปัญหาจึงรีบสั่งการแก้ไข และคิดว่าปัจจุบันน่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว ด้วยระเบียบกฎหมายข้อบังคับที่ต้องทำตาม อาจมีความล่าช้าบ้าง

ปัญหาการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ในเดือน ธ.ค.68 “เสือออนไลน์” อดคิดถึงใครบางคนไม่ได้ เขาคนนั้น คือ “ผู้รู้” อย่าง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ปัจจุบันไม่รู้ว่าหายเงียบไปอยู่ที่ไหน?
เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ต.ค.68 นายชาดาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ เป็นฉากๆ ว่า สงครามชายแดนไทย-กัมพูชา ในยุครัฐบาลแพทองธาร เกิดขึ้นเพราะคน 2 คนขัดผลประโยชน์กัน และสงสารอดีตนายกฯ แพทองธาร ที่พ่อไม่ออกมาปกป้อง

คนทำให้คนตาย คนสองคนทำให้ชาวบ้านประชาชนต้องอพยพ ไม่ได้ทำมาหากิน เกิดจากคนสองคนไม่ใช่สองประเทศ คนสองคนที่อยู่บนผลประโยชน์ร่วมกัน พอผลประโยชน์ขัดกันก็มีปัญหา แต่เกิดจากคนสองคนภายใต้ผลประโยชน์ใต้เกาะกูด วันนี้ไม่มีใครเอาความจริงออกมาแฉว่าผลประโยชน์ MOU 43 เขตบนดิน MOU 44 เขียนใต้ทะเล ในทะเลมีธรรมชาติที่ราคาแพงมากอยู่ใต้ทะเล มีการแบ่งปันผลประโยชน์กันเอง
พอคนสองคนทะเลาะกัน เรื่องก็ถูกแฉออกมา แต่สังคมคนไทยไม่รู้ พรรคพวกที่ก่อเหตุก็ไปโทษไอโอ (IO) พยายามเบี่ยงไปกาสิโน ความจริงคือคนละประเด็น

คนสองคนที่นายชาดาพูดถึง คงหมายถึง “ฮุนเซน-ทักษิณ”นั่นแหละ! แล้วศึกสงครามใหญ่กว่าเที่ยวนี้ล่ะ เกิดขึ้นเพราะใครกันแน่? เพราะ 2 ตระกูล “ฮุนเซน-ชาญวีรกูล” หรือคนสองคน “ฮุนเซน-อนุทิน” หรือเปล่า? ขัดผลประโยชน์ในทะเลใต้เกาะกูดใช่หรือไม่?
นายชาดาหายไปอยู่ที่ไหน? ช่วยออกมาแถลงชี้แจงถึงสาเหตุการสู้รบครั้งใหญ่ ระหว่างไทย-กัมพูชา ในยุครัฐบาลอนุทิน ด้วย!!
เสือออนไลน์