
BAM ชูนโยบาย แก้มลิงแห่งชาติ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนด้วย ESG ย้ำ BAM ทำ CSR in process ตั้งแต่วันแรกของการดำเนินธุรกิจ โดยการปรับโครงสร้างหนี้ด้วยความประนีประนอมและหาข้อยุติร่วมกัน เผยโครงการสุขใจได้บ้านคืน BAM ช่วยลูกหนี้ประนอมหนี้ได้มากถึง 5,963 ราย ขณะที่โครงการคอนโดราคามหาชน สามารถจำหน่ายทรัพย์ให้กับผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยมากถึง 3,331 รายการ
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวในงานสัมมนา THAILAND C VISION SUMMIT 2025 ในหัวข้อ “ESG ไม่ทำ = ไม่รอด” จัดโดย Business Plus ณ พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ว่า BAM ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการ ESG (Environmental, Social and Governance) เพื่อสร้างสมดุลให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ ด้วยวิสัยทัศน์การเป็น “แก้มลิงแห่งชาติ” เป็นพื้นที่รองรับหนี้เสียเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้

ทั้งนี้ BAM ทำ CSR in process มาตั้งแต่วันแรกของการดำเนินธุรกิจ โดยการปรับโครงสร้างหนี้ด้วยความประนีประนอมและหาข้อยุติร่วมกัน เพื่อให้ลูกหนี้เหล่านั้นสามารถนำทรัพย์หลักประกันกลับคืนไป ทำให้คนธรรมดาตัวเล็ก ๆ ยังรักษาบ้านหลังนั้นที่เขามีความทรงจำดี ๆ และดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติ โดยโครงการสุขใจได้บ้านคืน BAM สามารถช่วยลูกหนี้ประนอมหนี้ได้มากถึง 5,963 ราย ขณะที่ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ ทำให้เจ้าของธุรกิจ SME ยังสามารถดูแลกิจการและโรงงานของตัวเองได้ เราทำให้กิจการเหล่านั้นรอดไปแล้วกว่า 208 ราย
รวมถึง BAM ยังได้จัดทำโครงการคอนโดราคามหาชน ผ่อนถูก กว่าเช่า เพื่อช่วยเหลือหลากหลายอาชีพที่มีรายได้น้อย เช่น แม่บ้าน คนขับรถสามล้อ คนขับแท็กซี่ คนขับวินมอเตอร์ไซด์ ฯลฯ ที่เช่าบ้านได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในราคาถูก ผ่อนชำระกับ BAM เพียงเดือนละ 500 บาท เท่านั้น โดยในโครงการนี้ BAM สามารถจำหน่ายทรัพย์ให้กับผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยมากถึง 3,331 รายการ เหล่านี้คือสิ่งที่เราใช้ทรัพย์ NPA ของเรามาปรับให้อยู่ในงานที่สามารถสร้างความงดงามให้กับสังคมได้
ดร.รักษ์ กล่าวอีกว่า ในด้านพนักงาน BAM ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ทำงานอย่างมีความสุข ภายใต้โครงการ BAM CARE โดยได้จัดทำโครงการ MOU กับโรงพยาบาลเอกชนไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเพิ่มวันหยุดพิเศษในเดือนเกิด (Birthday leave) ให้กับพนักงาน เพื่อไม่ต้องใช้วันเกิดเป็นวันลา พร้อมทั้งจัดรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งพนักงานสามารถทำงานได้จากที่ไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในออฟฟิศหรือสถานที่ทำงาน (Work from Anywhere) และให้พนักงานมีส่วนร่วมเลือกเวลาการทำงานที่เหมาะสม (Flexi hour) เพื่อให้พนักงานอยู่ร่วมกับอย่างมีความสุข

ขณะเดียวกัน BAM ให้การดูแลและฟื้นฟูธรรมชาติ ผ่านโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด อาทิ การปลูกป่าบนพื้นที่ NPA เพื่อเพิ่มมูลค่า/พื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูระบบนิเวศ แผนการติดตั้ง Solar Roof บนอาคารสำนักงานใหญ่ เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ การเปลี่ยนรถยนต์ภายในองค์กรเป็น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% ภายในปี 2570 การติดตั้งเครื่องผลิต ปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเศษอาหาร (Food Waste) เพื่อหมุนเวียนทรัพยากรอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ด้วยบทบาท “หมอหนี้” BAM ทำหน้าที่ Recycling Machine มีเป้าหมายในการเร่งสร้างโรงงานแก้หนี้ (TDR Factory) เพื่อฟื้นฟูให้ลูกหนี้กลับมามีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้เป็นเรื่องง่าย เข้าถึงได้ และยุติธรรม รวมถึงได้มีการร่วมลงนามในข้อตกลงต่อต้านการทุจริต อย่างชัดเจน ภายใต้แนวคิด "เรียกรับ...เราร้อง" เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ขององค์กรในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ