หากไม่เป็นเพราะ “หมอบุญ” นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลธนบุรี ออกมา "ดับเครื่องชน" แฉปมและมูลเหตุที่ทำให้ประชาชนคนไทยต้อง "หาวเรอรอเก้อ" วัคซีนทางเลือก (ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพ) แต่กลับยังไม่มีการสั่งนำเข้ามาเสียที
ประชาชนคนไทยก็ยังคงจะโง่ดักดาน หาวเรอรอคอยวัคซีนต้านโควิดกันด้วยความหวัง Wind Wind Dry Dry (ลมๆ แล้งๆ) โดยไม่มีทางรับรู้เลยว่า รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโดยเฉพาะองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยังไม่ได้เซ็นคำสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์น่า และไฟเซอร์ที่ว่าแม้แต่น้อย แม้ภายหลังจะรีบแก้ปัญหานี้เหมือนเร็วดุจจรวดติดเทอร์โบ
ขณะที่วัคซีนที่รัฐบาล และ ศบค. เจ้ากี้เจ้าการนำเข้ามาเป็นกุรุดเป็น 100 ล้านโดส และพยายามยัดเยียดให้ประชาชนคนไทยฉีดๆ กันเข้าไปเถอะ ใครจะคัดง้างอย่างไรก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น แม้แต่หมอใหญ่จาก รพ.รามาและศิริราชพยาบาล ที่เข้าชื่อกันเรือนหมื่นขอให้ทบทวนกันอย่างไร ก็ดูจะไม่เป็นผลนั้น วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิ่งทำให้ผู้คนเริ่มสิ้นหวัง
การที่ผู้คนแห่แหนไปจองฉีดวัคซีนทางเลือกยัง รพ.รัฐและเอกชนบางแห่งกันล้นทะลัก อย่างเครือ รพ.เกษมราษฎร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ รพ.เชียงใหม่-ราม ที่เปิดจองวัคซีนทางเลือก Moderna ราคาเข็มละ 1500-1800 บาท ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยอดจองทะลักล้นจนเว็ปล่ม และ รพ.อีกหลายแห่งเปิดจอง ก็ล้วนทะลักล้นจนระบบรับไม่ไหวนั้น
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของภาครัฐ และ ศบค. จนทำให้ประชาชนคนไทยเริ่ม “สิ้นหวัง” กับการบริหารจัดการกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 ของภาครัฐและ ศบค.อย่างชัดเจน!
วิกฤติศรัทธาที่กำลังประดังเข้าใส่เสถียรภาพของรัฐบาลในเวลานี้ ใช่จะมีเพียงแต่เรื่องของการบริหารวัคซีน โควิดที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเท่านั้น ยังมีเรื่องของ “นโยบายการบริหารพลังงาน และแหล่งก๊าซธรรมชาติของประเทศ” ที่กำลังระอุแดดและจ่อจะรุนแรงยิ่งกว่าไวรัสระลอกใหม่
เมื่อมีกระแสข่าวว่า บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (ปตท.สผ. อีดี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ชนะประมูลแหล่งสัมปทานในโครงการ G1 เข้าพื้นที่สัมปทานไม่ได้ แม้จะมีการลงนามในข้อตกลง 3 ฝ่าย ในการเข้าใช้พื้นที่สัมปทานตั้งแต่ปลายปี 2562 แล้วก็ตาม ด้วยเหตุที่รัฐบาลและพลังงานยังเจรจาเคลียร์หน้าเสื่อเรื่องการรื้อถอนแท่นขุดเจาะของผู้รับสัมปทานเดิม คือ บริษัท เชฟร่อนไม่ลงตัว ทำให้ ปตท.สผ.ที่ต้องการเข้าไปติดตั้งแท่นขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตก๊าซได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่สัมปทาน ไม่สามารถจะเข้าพื้นที่ได้ ทั้งที่ได้เตรียมงบลงทุนเอาไว้แล้วกว่า 200 ล้านเหรียญ
จะต้องรอไปจนสิ้นสุดสัมปทานเชฟร่อนในเดือน เม.ย. 2565 หรืออาจจะกว่านั้นไปแล้ว ทำให้คาดการณ์กันว่า จะเกิดปัญหาขาดแคลนก๊าซในข่วงเปลี่ยนผ่าน 200-300 ล้านลบ.ฟุต/วัน รัฐบาล และกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ต้องวิ่งพล่านหาทางออกด้วยการหันไปบริหารการนำเข้าปิโตรเลียมเหลว LNG แทน
ท่ามกลางข้อกังขาของผู้คนในแวดวงพลังงาน เกิดอะไรขึ้นกับนโยบายพลังงานของประเทศ กระทรวงพลังงานกำลังเล่นเอาเถิดกับนโยบายพลังงานหรืออย่างไร? เหตุใดรัฐบาลกับกระทรวงพลังงานถึงได้ลอยแพ ปตท.สผ. ให้ต้องแก้ไขปัญหาโดยลำพัง ทั้งที่รัฐบาลเองเป็นผู้ผลักดันให้ ปตท.สผ.เข้าไปเสียบสัมปทานแหล่งเอราวัณแห่งนี้ ด้วยการ “ทุบ” ราคาที่จะเสนอขายให้กับรัฐบาลไทยลงไปต่ำสุดถึง 116 เหรียญ/ล้านบีทียู จนทำเอาเจ้าของสัมปทานเดิมถึงกับไปไม่เป็น
ที่สำคัญตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รมต.พลังงาน ได้ทำอะไรบ้างกับการ “ผ่าทางตัน” ปัญหาดังกล่าว หลังการประมูลสัมปทานปิโตรเลียมครั้งประวัติศาสตร์เสร็จสรรพไปตั้งแต่ปีมะโว้ โดยที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างมีเวลาเตรียมการในช่วงเปลี่ยนผ่านตั้ง 4-5 ปีก่อนสัมปทานสิ้นสุดลงนั้น
เราได้ยินแต่เรื่องของ “ค่ารื้อถอน” แท่นขุดเจาะเดิม 1.4 แสนล้าน ที่กรมเชื้อเพลิงธรรชาติและกระทรวงพลังงานป่าวประกาศออกมาตั้งแต่ปีมะโว้ และยืนกรานจะต้องให้ผู้รับสัมปทานเดิมต้องจ่าย ทั้งที่มีหนทางเจรจาอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถจะคิดอ่านหรือเตรียมทางหนีทีไล่กัน
จนทำให้เกิดคำถาม กระทรวงพลังงานกำลังลอยแพ กรมเชื้อเพลิงฯ และ ปตท.สผ. ที่เผชิญหน้าเจรจากับยักษ์เชฟรอนจากมหาอำนาจอเมริกาตามลำพังหรืออย่างไม่? เหตุใดจึงปล่อยให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกำถั่วเจรจาอยู่ตามลำพัง ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ
เพราะหากประเทศต้องขาดแคลนก๊าซป้อนโรงไฟฟ้า และจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้า LNG ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้านี้ แน่นอนว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นนั้น สุดท้ายย่อมสะท้อนลงไปยังค่าไฟ ค่าพลังงานที่ประชาชนคนไทยนั่นแหล่ะจะต้องรับกรรม
รัฐบาลและ ศบค. พลาดมาหนแล้วเรื่องของการบริหารวัคซีนต้านโควิด-19 อย่าให้ต้องผิดพลาดในนโยบายพลังงานอีกเลย !!!
หมายเหตุ: อ่านเพิ่มเติมใน..เนตรทิพย์:Special Report
ลับ ลวง พราง พลังงาน.. กับค่าโง่แสนล้านที่คนไทยรับกรรม (ตอนที่1)
http://www.natethip.com/news.php?id=4149
