
กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงการคลัง โพสต์ปมร้อน MOU อัปยศ ระบุว่า..ภาพนี้เป็นปัญหามาก..
มีปัญหาจนถึงขั้นได้พยายามปกปิดไม่ให้เจ้ากระทรวงคนปัจจุบันรู้ว่ามีภาพนี่อยู่ และปกปิดแม้แต่ว่าเคยมีพิธีลงนามหรือไม่!
MoU อัปยศนี้ได้ถูกท่านรัฐมนตรีกระทรวง DE คนปัจจุบัน คุณไชยชนก ชิดชอบยกเลิกไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการลงมือที่เด็ดขาดและชัดเจนมาก

MoU นี้มีไว้เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้คู่สัญญาจากต่างประเทศดำเนินการในหลากหลายธุรกิจที่ไม่มีกฎหมายรองรับ รวมถึงธุรกรรมที่เกี่ยวโยงกับ crypto และแม้แต่พนันออนไลน์
MoU ได้มีการลงนามในยุครัฐบาลเพื่อไทยในสมัยนายกฯ แพทองธาร
ประเด็นที่ต้องสะสางมีมากมาย รวมถึง visa พิเศษที่ได้ออกให้ต่างชาตินับร้อยคนภายใต้ข้อตกลง MoU นี้ว่าออกไปให้ใครบ้าง และถูกถอนสิทธิหลังจากที่มีการยกเลิก MoU นี้แล้วหรือยัง
แต่ปัญหาของภาพนี้ นอกจากคุณธรรมนัสและคุณนฤมล ยังมีบุคคลที่ถือแฟ้ม MoU อยู่ในมือ คือ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ในฐานะปลัดกระทรวง DE ในขณะนั้น และสำคัญกว่านั้น วันนี้เป็นประธาน กลต. - หน่วยงานที่มีหน้าที่สำคัญในการสอบสวนกระบวนการฟอกเงินสกปรกในตลาดหุ้นไทย

ในกรณี MoU นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) ได้ออกแถลงการณ์ ยืนยัน ไม่ปล่อยให้ “ตลาดทุน–สินทรัพย์ดิจิทัล” ถูกใช้เป็นช่องทางการฟอกเงิน
ประเด็นปัญหา คือ วันนี้ประธาน กลต. เอง เป็นผู้ร่วมลงนามกับบริษัทที่มีนายเบน สมิธ ได้มายืนเป็นตัวแทนหรือ/และสักขีพยาน
อย่างนี้สังคมมีสิทธิตั้งแง่ตั้งคำถามกับสำนักงาน กลต. เพราะลำพังต้องเกรงใจและเกรงกลัวท่านรองนายกฯ และท่านรัฐมนตรีในภาพแล้ว เจ้าหน้าที่ยังต้องเกรงใจเจ้านายตัวเองอีกต่างหาก
จนถึงวันนี้ กลต. ถูกมองว่า ‘เกียร์ว่าง’ ในการจัดการกับขบวนการฟอกเงิน แฟร์หรือไม่ถกเถียงกันได้ แต่เมื่อมีภาพนี้ ความเชื่อมั่นหายไปแน่นอน
ท่านอาจจะมองว่า ท่านยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่วันนี้เมื่อรู้ว่ามีปัญหา ผมเชื่อว่าท่านคงตระหนักว่าควรต้องทำอะไรเพื่อให้องค์กรไปต่อได้
ส่วนท่านนายกรัฐมนตรีอนุทินคิดอย่างไร (และจะทำอะไร) กับเพื่อนรัฐมนตรีของท่านที่ปรากฏในภาพนี้ ผมว่าหลายคนก็อยากรู้เหมือนกัน…