
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ มาแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งหลังสุดเมื่อปี 41 เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ มาแล้ว 7 ครั้ง โดย 2 ครั้งหลังสุด คือ ครั้งที่ 18 ในปี 38 ที่ จ.เชียงใหม่ และครั้งที่ 24 เมื่อปี 50 ที่ จ.นครราชสีมา
แต่ทำไม? การแข่งขันกีฬา “ซีเกมส์” ครั้ง 33 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค.68 จึงเงียบมาก แถมมีปัญหาเยอะแยะไปหมด มีเรื่องราวดราม่ามากมาย จนถูกแซวว่าประเทศไทยจัดซีเกมส์ครั้งนี้ได้แย่กว่ากัมพูชา

ตั้งแต่มีข่าวว่า ผู้ออกแบบพิธีเปิด-ปิด โดนเทงาน ทำให้เตรียมงานฟรี 7 เดือน โดยไม่ได้เงิน, แมตช์ฟุตบอลชายนัดเปิดสนามของทีมชาติไทย ปะทะติมอร์-เลสเต ไฟส่องสว่างในสนามมีปัญหา, แมตช์ระหว่างเวียดนาม พบ สปป.ลาว เพลงชาติเปิดไม่ติด นักเตะต้องร้องสดกันเอง, คนรับงานซีเกมส์ในโซน จ.ชลบุรี บ่นว่ายังไม่ได้รับเงินมัดจำ!
สมาคมส่งเสริมคอนเทนต์ วาย ไทย ออกมาแถลงว่าได้รับแจ้ง “ขอยกเลิก” การถือป้ายประเทศในพิธีเปิดและปิดกีฬาซีเกมส์ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ การจัดงาน! เรียกว่าสารพัดปัญหา
รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการบริหารประเทศอย่างเต็มที่ หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 29-30 ก.ย.68
ส่วนคนที่เป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร จากพรรคกล้าธรรม มีหน้าที่กำกับดูแลการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ครั้งนี้
ถามว่าช่วงเวลากว่า 60 วัน (ต.ค.-พ.ย.) สำหรับนายอนุทิน และนายอรรถกรในการบริหารจัดการซีเกมส์ เพียงพอหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าพอ! เนื่องจากฝ่ายปฏิบัติ คือ ข้าราชการประจำ ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเป็นคนเดิม คือ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ส่วน ผู้ว่าฯ กกท. ยังเป็นคนเดิม คือ นายก้องศักด ยอดมณี รวมทั้งเรื่องสนามแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่มีความพร้อม 80-90% อยู่แล้ว
ดังนั้นปัญหาจึงอยู่ที่การบริหารจัดการของรัฐบาล โดยเฉพาะนายอนุทิน และนายอรรถกร ทำงานกันอย่างไร? นายอนุทินเพิ่งถูกโจมตีเรื่องบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่าแย่! และล่าช้า! จนไม่รู้ว่าป่านนี้สรุปยอดผู้เสียชีวิต ผู้สูญหายจากน้ำท่วมหาดใหญ่ได้หรือยัง? ต้องมาเจอปัญหาจัดซีเกมส์ไม่ได้เรื่องอีก

ครั้นจะโทษรัฐบาลชุดก่อน นายสรวงศ์ เทียนทอง อดีต รมว.ท่องเที่ยวฯ ก็สวนกลับมาว่า ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทและโปร่งใสอย่างที่สุด และพยายามยกระดับมาตรฐานวงการกีฬาไทยให้ดีขึ้น ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ไม่ว่าจะเป็นการจัดมหกรรมกีฬาวอลเลย์บอลระดับโลก ที่ได้รับคำชื่นชมโดยตรงจากสมาพันธ์วอลเลย์บอลโลก ในการจัดการแข่งขัน FIVB Volleyball Championship ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนถึงมาตรฐานการทำงานที่เป็นสากล แต่ในครั้งนี้ การจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 รัฐบาลปัจจุบันกลับพยายามโยนความผิดให้รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งตนกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่าเป็นผู้เตรียมงานไม่ดี
ตนขอตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาจากพื้นฐานของคนที่มีสามัญสำนึกว่าคำกล่าวหานี้ “ท่านไม่รู้สึกละอายแก่ใจเลยหรือครับ?”
ผู้นำที่แท้จริงต้องเผชิญกับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แก้ไขด้วยสติและความกล้าหาญ ไม่ใช่ผลักภาระหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว “เสือออนไลน์” มีประเด็นฝากไปยังนายอนุทิน และนายอรรถกร ไว้พิจารณาดังนี้ กลุ่มผู้จัดงานอีเวนต์ แจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้ปัญหาดราม่าซีเกมส์ เกิดจากการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง หรือไม่? และมีข้อสงสัยอีกหลายเรื่อง คือ
1. ทีมงานเดิมที่เตรียมงานนี้ไว้อย่างดี ตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้ว โดนเทงาน เพราะเปลี่ยนรัฐบาล และเปลี่ยนรัฐมนตรีคนใหม่
2. กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เปลี่ยนมาเป็นรัฐมนตรีที่มาจากพรรคกล้าธรรม
3. มีการตกลงลับๆ เพื่อให้งาน บริษัทออแกไนซ์ใหญ่ หรือไม่?
4. เป็นการจัดซื้อจัดจ้างแบบรวบรัดผิดปกติ งบประมาณ 142 ล้านบาท เพราะการเตรียมงานใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน
5. การประกาศ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ตามระเบียบ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง หลังประกาศผู้ชนะประกวดราคา ต้องรอ 7 วัน เพื่อให้มีการอุทธรณ์ หลังจากนั้นจะเชิญผู้ชนะมาลงนามในสัญญา ประมาณหลังวันที่ 10 ธ.ค.68 แต่ขณะนี้ (4 ธ.ค.) พบว่าผู้ชนะมีการนำของและเวทีเข้าติดตั้งงานที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ไปจนเกือบเสร็จแล้วก่อนวันประกาศผู้ชนะด้วยซ้ำ
6. มีการเข้าติดตั้งเวทีคบเพลิงขนาดใหญ่ เสร็จเรียบร้อย ก่อนวันประกาศผลผู้ชนะราคาและยังไม่ได้ลงนามในสัญญา

คำถามคือ นายอนุทิน นายอรรถกร เอางานใหญ่ระดับประเทศ มาบริหารจัดการกันเหมือนเด็กเล่นขายของ จนชื่อเสียงของประเทศไทยพังเสียหายในสายตาของประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
เสือออนไลน์