
ไม่แน่ใจเป็นการลุกขึ้นมาทำหน้าที่สื่อสะท้อนรากเหง้าของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ จนนำมาสู่การที่บริษัทร้องขอแก้ไขสัญญาสัมปทานยกกระบิ หรือแค่เป็น "กระบอกเสียง" ในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ของบริษัทกันแน่!
…
ขณะที่ถนนทุกสายกำลัง "ลุ้นระทึก" กับจุดจบของนายกฯ "แพทอง(โพย)ธาร-คุณหนูของบ่าว" ว่าจะลงเอยอย่างไร จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เพราะผลพวงของ "คลิปแบล็กเมล์" ของ "อังเคิ่ลฮุน" ที่นำออกมาเผยแพร่จนทัวร์ลงกันจริงๆ หรือว่าจะยังคงได้ไปต่อ (แบบลุ่มๆ ดอนๆ)
วันก่อนเหลือบไปเห็นคอลัมนิสต์ใหญ่ของสำนักข่าวหัวเขียวที่วงการสื่อต่างก็รู้กันดีว่า ดอดไป "รับจ๊อบ" เป็นที่ปรึกษาใหญ่ให้แก่ธุรกิจ "ดิวตี้ฟรี" มานับทศวรรษ ออกโรงเชียร์การเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานระหว่าง AOT บมจ.ท่าอากาศยานไทย กับ บริษัท คิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู!

โดยเจ้าตัวได้ตั้งคำถาม "ใคร(หนอ)รังแกคิงเพาเวอร์" พร้อมย้อนรอยเส้นทางการดำเนินธุรกิจของ “เจ้าสัววิชัย” ผู้ล่วงลับ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีในเมืองไทย จนสามารถผลักดันให้คิงเพาเวอร์ติดลมบนในระดับท็อป 10 ของโลก จ่ายผลตอบแทนให้รัฐ หรือ AOT ไปไม่รู้กี่หมื่นล้าน และมีส่วนทำให้ราคาหุ้นของ AOTกลายเป็นหุ้น "บลูชิพ" ที่นักลงทุนไทย-เทศไว้วางใจ
ทั้งยังร่ายยาว ที่ผ่านมาธุรกิจดิวตี้ฟรีของกลุ่มคิงเพาเวอร์ต้องเจอเสือสิงห์กระทิงแรด เจอกลุ่มก๊วนทางการเมืองเข้ามาแซะผลประโยชน์ และขอเข้ามามีเอี่ยวในธุรกิจดิวตี้ฟรีมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แต่ "เจ้าสัววิชัยผู้ล่วงลับ" ก็กัดฟันสู้ไม่ถอย
จนการประมูลดิวตี้ฟรีครั้งล่าสุด เมื่อปี 62 กลุ่มคิงเพาเวอร์จำเป็นต้องยอมเสนอผลตอบแทนแก่รัฐสูงลิ่ว เพื่อไล่กุ๊ยทางการเมืองเหล่านั้นไป
ไม่แน่ใจเป็นการลุกขึ้นมาทำหน้าที่สื่อสะท้อนรากเหง้าของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ จนนำมาสู่การที่บริษัทร้องขอแก้ไขสัญญาสัมปทานยกกระบิ หรือแค่เป็น "กระบอกเสียง" ในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ของบริษัทกันแน่!
แต่ก็น่าจะจริงอย่างที่เจ้าหล่อนว่านั่นแหล่ะ เพราะแค่มีข่าวกลุ่มคิงเพาเวอร์ "หืดจับ-หายใจไม่ทั่วท้อง" จนต้องร้องขอยืดจ่ายค่าต๋งออกไปก่อนหน้า ก็ทำเอาราคาหุ้น AOT ไหลรูดจนเสียศูนย์ จากที่เคยซื้อขายกันอยู่ที่ 65-70 บาทเมื่อปลายปีก่อน ล่าสุดนี้ไหลรูดลงไปต่ำกว่า 29-30 บาทไปแล้ว
นี่หากสามารถเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานที่นัยว่า เป็นการเจรจาแบบ "ถ้อยทีถ้อยอาศัย" ตามสุภาษิตที่ว่า "รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย" ก็ไม่รู้ว่า ราคาหุ้น AOT จะไหลรูดลงไปถึงไหน จะถึง 20 บาทหรือไม่ หรือจะรูดลงไปต่ำสิบก็ไม่รู้ได้

"แก่ง หินเพิง" คงต้องย้อนถามฝ่ายบริหาร AOT และรัฐบาล โดยเฉพาะ "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.คมนาคม ที่ก่อนหน้าเคยออกมายืนยัน นั่งยันว่า การยืดเวลาจ่ายผลตอบแทนให้แก่คิงเพาเวอร์ก่อนหน้านั้น ไม่ทำให้ AOT เสียประโยชน์แม้แต่น้อย จะยังคงยืนยันคำพูดเดิมของตัวเองอยู่หรือไม่?
หากจะถามว่า "ใคร(หนอ)รังแกคิงเพาเวอร์" ก็คงต้องย้อนถามกลับไปยังบริษัทเช่นกันว่า มีใครบ้างไม่เคยรับรู้มาก่อนว่า หลังวิกฤติเศรษฐกิจและไวรัสโควิด-19 นั้น คู่สัญญาฝ่ายรัฐ คือ AOT ได้ประเคนมาตรการเยียวยาอะไรลงไปให้แก่คิงเพาเวอร์ (และผู้ประกอบการรายอื่นๆ บ้าง)
ขอโทษ! ทั้งขยายสัญญาสัมปทาน ยืดเวลาจ่ายผลตอบแทน ปรับแนวทางการคำนวณผลประโยชน์ตอบแทนแก่รัฐ เรียกได้ว่า ประเคนให้กันจน "สำลัก" ทำเอาผู้ถือหุ้น AOT และกระทรวงการคลังแทบจะลุกขึ้นมา "ฟ้อนเงี้ยว" ถลกหนังหัว AOT เลยก็ว่าได้ จนถึงขนาดที่มีการสัพยอกว่า ฝ่ายบริหารและบอร์ด AOT ในเวลานั้น เป็นเจ้าของสัมปทาน หรือเป็น "ลูกไล่" ให้บริษัทเอกชนคู่สัญญากันแน่!
หากสิ่งที่ AOT ให้ไปก่อนหน้าไม่ตอบโจทก์ บริษัทไม่ได้รับ "อานิสงส์" ใดๆ หรือไม่ทำให้บริษัทลืมตาอ้าปากใดๆ แม้แต่น้อย จนต้องกลับมาร้องแรกแหกกระเชอขอเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานกันใหม่ยกกระบิ ก็คงต้องย้อนถามไปยังบริษัทว่า แล้วบริษัทยินยอมรับเงื่อนไขยอมแก้ไขสัญญา ยอมรับมาตรการเยียวยาโดยเฉพาะการ "ขยายสัญญาสัมปทาน" ไปทำไม ทำไมไม่โวยวายหรือร้องแรกแหกกระเชอให้ผู้คนเขาได้รับรู้เสียตั้งแต่แรก!
แล้วก็ขอโทษเถอะมาตรการเยียวยามาตรการช่วยเหลือบริษัทคู่สัญญาที่ว่านั้น ก็หาใช่เป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหาร AOT ในขณะนั้น "นั่งเทียน" หรือโม่แป้งไปโดยลำพัง แถมคนที่ชงมาตรการเยียวยาขยายสัญญาสัมปทาน-ปรับเกณฑ์คำนวณผลตอบแทนอะไรที่ว่า ก็ใช่ใครที่ไหน?
ก็ "ซีอีโอใหม่" ของกลุ่มคิงเพาเวอร์ ที่เป็นอดีต CEO AOT เองไม่ใช่หรือ?..

ส่วนที่บริษัทอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสัญญาจากที่ต้องจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่รัฐในรูป Minimum Guarantee สูงกว่าที่ควรจะเป็นนะ สูงกว่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามปกตินั้น
ก็คงต้องย้อนถามกลับไปยังบริษัทด้วยว่า การที่กลุ่มคิงเพาเวอร์ชนะสัมปทานดิวตี้ฟรีทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ 3 สนามบินภูมิภาคไปขาดลอยนั้น ก็ไม่เพราะบริษัทมีการยื่นข้อเสนอ "เพิ่มเติม" เงื่อนไข Minimum Guarantee ที่บริษัทอ้างว่า จำเป็นต้องใส่ไปสุดตัวเพื่อไล่กุ๊ยธุรกิจการเมืองที่พยายามจะเข้ามาเบียดแทรกธุรกิจดิวตี้ฟรีในสนามบินเองไม่ใช่หรือ?
เมื่อเศรษฐกิจและภาวะการท่องเที่ยวทรุดต่ำลง ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ จึงทำให้ค่าสัมปทานส่วนที่เป็น Minimum Guarantee ที่บริษัทต้องจ่ายแก่รัฐสูงกว่าผลประโยชน์ตอบแทนรายปีที่ควรจะเป็น และทำให้ความภูมิอกภูมิใจของบริษัทที่สามารถกวาดสัมปทานดิวตี้ฟรีในทุกสนามบิน AOT ในอดีต กลายเป็น "หนามยอกอก" ที่ทำให้บริษัทกลับต้อง "หืดจับ" หายใจไม่ทั่วท้อง
สิ่งเหล่านี้คู่สัญญาฝ่ายรัฐ คือ AOT สมควรต้อง "ไถ่บาป" รับผิดชอบด้วยอย่างนั้นหรือ?
และหากยึดตามเกณฑ์ผลประโยชน์ตอบแทนรายปีเพียงอย่างเดียว ข้อเสนอของกลุ่มคิงเพาเวอร์ เมื่อครั้งการประมูลชิงดำสัมปทาน Duty Free เมื่อปี 62 นั้นสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในเวลานั้นด้วยหรือไม่หล่ะ!
และหากยกเลิก Minimum Guarantee ที่ว่าไปจะทำให้ AOT ต้องสูญเสียผลประโยชน์ไปกี่มากน้อย เมื่อเทียบกับการ "ริบหลักประกัน" และเปิดประมูลสัมปทานใหม่ยกกระบิ!

คงต้องเตือนสติคน AOT ได้ย้อนรอย "บทเรียน" กรณีแก้ไขสัญญาสัมปทานในอดีต ที่เคยทำเอาฝ่ายบริหารหน่วยงานของรัฐเคยต้องโทษจำคุกกันมาแล้ว ก็คือกรณีของ "นายสุธรรม มะลิลา" อดีตผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ฯ หรือ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ในปัจจุบัน ในคดีแก้ไขสัญญาสัมปทานเพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า (Prepaid Card) ให้แก่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS โดยมิชอบ
โดยนายสุธรรมในฐานะผู้อำนวยการ ทศท. ได้ทำสัญญาอนุญาตให้ AIS ปรับลดส่วนแบ่งรายได้ค่าสัมปทานจากที่ต้องจ่ายแก่รัฐร้อยละ 25-30 ในปีที่ 15-25 เหลือเพียงร้อยละ 20 คงที่ตลอดอายุสัญญา โดยไม่ได้ปฏิบัติตามข้อสังเกตของบอร์ด ทศท. ยังผลให้ ทศท. เสียหายได้รับส่วนแบ่งรายได้น้อยลงจากเดิม
ก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีสติชี้มูลความผิดและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องคดีเมื่อปลายปี 2557-58 คดีนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 3483/2563 ให้จำคุก "นายสุธรรม" เป็นเวลา 6 ปีและให้ชดใช้เงินคืนแก่ทศท. จำนวน 46,855 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
ปูเสื่อรอการเส้นทางการเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์ที่ว่านี้ จะ "เจริญรอยตาม" คดีแก้สัมปทาน ทศท. ในอดีตหรือไม่
เผือกร้อนสัมปทานดิวตี้ฟรีที่ว่านี้ ไม่ใช่จะยึดเพียงสุภาษิต "เรียนผูกแล้วต้องเรียนแก้" กันได้ง่ายๆ
แก่ง หินเพิง
….
หมายเหตุ : อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง..
-เนตรทิพย์: Hot Issue
ทอท. แบไต๋เจรจา "คิงเพาเวอร์" หวั่นชวดค่าต๋ง "ดิวตี้ฟรี" หมื่นล้าน!
https://www.natethip.com/news.php?id=10257

-เนตรทิพย์: Hot Issue
เผือกร้อนแก้สัมปทาน "คิงเพาเวอร์".. ทอท. แบไต๋พร้อมเจรจา-วงในชี้เอื้อประโยชน์เอกชน
https://www.natethip.com/news.php?id=10279
