
AOT กุมขมับจ่อชวดค่าสัมปทานดิวตี้ฟรีนับหมื่นล้าน หลังคิงเพาเวอร์ยื่นโนติ๊สขอเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทาน 3สนามบิน อีกระลอก อ้างยังไม่พ้นวิกฤติ หากไม่ได้รับการสนองตอบพร้อมถอนสมอ วงในเตือนเผือกร้อนสัมปทานดิวตี้ฟรีเอื้อเอกชนระวังพาเหรดขึ้นเขียง ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กรณีบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้ยื่นหนังสือถึง AOT เพื่อขอเจรจาแก้ไขสัญญาประกอบกิจการร้านปลอดอากร (Duty Free) ใน 3 สนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ หลัง KPD ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก จากวิกฤติเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยังคงไม่คลี่คลาย ปริมาณนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

มีรายงานว่า ฝ่ายบริหาร AOT เตรียมนำปัญหาดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการแก้ปัญหาเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ในการประชุมวันจันทร์ที่ 16 มิ.ย. 2568 นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่า จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการร้านปลอดอากรในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT ทั้งหมด รวมทั้งว่าจ้างที่ปรึกษาที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาให้เกิดความเหมาะสม โดยคาดว่าจะได้ผลการศึกษาภายในระยะเวลา 60 วัน หลังจากนั้นจะเสนอคณะกรรมการ ทอท.พิจารณาแนวทางในการเจรจากับ KPD ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทอท. ขอยืนยันว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการผู้โดยสาร และ KPD ยังคงประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ตามปกติ
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ระบุว่า การเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีในสนามบินภูมิภาคทั้ง 3 แห่ง กับ PKD เป็นเรื่องที่หมิ่นเหม่ "เอื้อประโยชน์ต่อเอกชน" และอาจทำให้ผู้เกี่ยวข้องสุ่มเสี่ยงจะพาเหรดขึ้นเขียง ป.ป.ช. ได้ทุกเมื่อ เพราะการประมูลสัมปทานประกอบกิจการร้านปลอดอากรในสนามบินนั้น มีการประมูลแข่งขันกันหลายราย แต่ AOT ตัดสินใจเลือกข้อเสนอของ KPD เพราะเป็นผู้เสนอผลตอบแทนสูงสุดทั้งในส่วนของดิวตี้ฟรีสนามบินดอนเมือง และ 3 สนามบินภูมิภาค (เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่)

AOT เปิดประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีใน 3 สนามบินภูมิภาค (ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหาดใหญ่) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2562 โดยมีผู้ยื่นข้อเสนอรวม 3 ราย ได้แก่ 1. บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) 2. กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ- ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี (ท่าอากาศยานภูมิภาค) และ 3. บริษัทโรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) ในนามกิจการร่วมค้ารอยัลออคิด เอ็มไพร์ เอเชีย และ WDFG UK LIMITED โดยผลการเปิดซองข้อเสนอเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 256 บริษัท KPD เป็นผู้ชนะประมูลเพราะเสนอผลตอบแทนแก่ AOT สูงสุด
"การจะอ้างว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมายไม่น่าจะถูกต้อง เพราะคู่สัญญาภาครัฐได้ดำเนินมาตรการเยียวยาไปให้ตามสมควรไปหมดแล้ว ทั้งการปรับวิธีการคำนวณผลตอบแทนขั้นต่ำ การขยายสัญญาจาก 10 ปี 6 เดือน เพิ่มเป็น 12 ปี และยืดเวลาจ่ายค่าสัมปทานให้ถึง 18 เดือน หากจะแก้ไขสัญญามากกว่านี้ย่อมไม่เป็นธรรมกับผู้ประมูลรายอื่น"
ทั้งนี้แหล่งข่าวกล่าวว่า หากบริษัทไม่สามารถจ่ายค่าสัมปทานได้ตามสัญญา ทอท. สามารถยึดแบงก์การันตี 13,000 ล้านบาท และ ทอท. ยังสามารถเปิดประมูลสัมปทานใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องเจรจาแก้ไขสัญญาแต่อย่างใด

ขณะที่ เพจลงทุนแมน ระบุว่า หุ้น AOT ร่วงหนัก -7.8% มูลค่าบริษัทหาย 36,000 ล้าน หลังมีข่าว King Power ยื่นหนังสือ ขอยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี สนามบินหาดใหญ่, สนามบินภูเก็ต และสนามบินเชียงใหม่ โดยแจ้งว่า เป็นเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ, นักท่องเที่ยวจีนหาย, สงครามการค้า
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้น AOT ร่วงลงมาแล้วมากกว่า -50% และทำให้ราคาหุ้นต่ำสุดในรอบ 10 ปี
