
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.68 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานผลการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันอาทิตย์ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 117,717 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 81,750 คน คิดเป็นร้อยละ 69.45
บัตรดี 78,530 ใบ คิดเป็นร้อยละ 96.06 บัตรเสีย 1,088 ใบ คิดเป็นร้อยละ1.33 บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 2,132 ใบ คิดเป็นร้อยละ 2.61
ผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ต้องเรียกว่า “หักปากกาเซียน” เนื่องจากผู้ชนะคือ “สจ.โอ” นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ พรรคกล้าธรรม 38,680 คะแนน

อันดับ 2 นายไสว เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย 28,417 คะแนนอันดับ 3 นายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง พรรคประชาชน 6,811 คะแนน อันดับ 4 นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ 4,190 คะแนน อันดับ 5 ว่าที่ พ.ต.กวี ไกรทอง พรรคพร้อม 238 คะแนน อันดับ 6 นายพิษณุ รสมาลี พรรคทางเลือกใหม่ 194 คะแนน
งานนี้ทำให้นายชินวรณ์ อดีต สส. 8 สมัย และเป็นพ่อตาของนายก้องเกียรติ ว่าที่ สส. ต้องระบายผ่านทางเฟซบุ๊คว่า “มันเกิดอะไรขึ้นในเขต 8 นครศรีธรรมราช ? ผมไม่อยากพูดถึงแล้ว แต่มีหลายคนบอกผมว่า เพราะ 2 พรรคธุรกิจการเมือง ใช้อำนาจรัฐเป็นฐาน และเกทับกันจ่ายเป็นรายหัวจาก 1,000 บาท ในวันที่ 24 เป็น 1,500 บาท ในวันที่ 25 และท้ายสุดเป็น 2,000 บาท ในคืนวันที่ 26 เม.ย จนถึงวันที่ 27 เม.ย. พรรคหนึ่งตั้งเป้า4 หมื่นคะแนน ซื้อ 7 หมื่นคะแนน 70 ล้านบาท รวมค่าบริการจัดการไม่อั้นอีก 30 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท อีกพรรคหนึ่ง ตั่งเป้า 3 หมื่นคะแนน ซื้อ 4 หมื่นคะแนน 40 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการไม่อั้น 30 ล้านบาท เป็น 70 ล้านบาท ซื้อจนถึงหน้าหน่วยเลือกตั้ง มีพลเมืองดีหลายคนโทรฯ ไปแจ้ง กตต. บอกที่เกิดเหตุ แต่กลับงีบ โดยเฉพาะหัวหน้าชุดสืบสวนไม่เคยรับสายครับ”
ว่ากันตามตรง กรณีนายชินวรณ์โพสต์ว่า มีการซื้อเสียงกันถึง 3 รอบ ตั้งแต่ 1,000-1,500-2,000 บาท เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาแพ้เลือกตั้งซ่อม สส. แต่ยังเป็นแค่การพูดในเชิงตั้งข้อสงสัยส่วนตัว เพราะยังไม่มีการยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการไปยัง กกต. หรือมีหลักฐานว่ามีการซื้อเสียงจริง จึงยังไม่มีผลทางกฎหมาย

งานนี้ “เสือออนไลน์” ทราบว่าพลพรรคประชาธิปัตย์ต่างร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน เนื่องจาก “ภาคใต้” ถือเป็นเมืองหลวงของพรรค และเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์
การเลือกตั้งปี 66 ที่ว่าย่ำแย่ เพราะได้ สส.เขตมา 21 คน และ สส.บัญชีรายชื่ออีก 4 คน เมื่อผลการเลือกตั้งซ่อมในเขต 8 นครศรีธรรมราช ออกมาในรูปนี้ แล้วการเลือกตั้งเที่ยวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะเหลือ สส.ถึง 10 คน หรือเปล่า?
“ม็อตโต้” ประจำตัวนายชวน หลีกภัย สส.อาวุโสของพรรค เวลามีเลือกตั้งเมื่อไหร่ มักจะบอกว่า “ทำการเมืองสุจริต” แต่จริงๆ แล้วเวลาพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารประเทศ ได้บริหารบ้านเมืองอย่างสุจริตหรือเปล่า?
ระหว่าง “ทำการเมืองสุจริต” กับ “ไม่มีผลงานให้เป็นที่จดจำของชาวบ้าน” ทั้งที่เป็นรัฐบาลมาหลายครั้ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีมาหลายคน แต่เคยสร้างถนนหนทาง สร้างสะพาน สร้างแหล่งน้ำ สร้างความเจริญด้านอื่นๆ ช่วยผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้เป็นที่ชื่นชอบของคนภาคใต้บ้างหรือไม่?
หรือ “ทำการเมืองสุจริต” เป็นเพียงวาทกรรมฉาบฉวยช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ก็มักจะมีข้อครหา เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของรัฐมนตรีในอดีตจากพรรคประชาธิปัตย์อยู่เรื่อยๆ
แล้วที่แน่ๆ เวลานี้คนใต้กำลัง “ลงโทษ” พรรคประชาธิปัตย์ แต่เที่ยวหน้าจะถึงขึ้น “ล่มสลาย” หรือเปล่า! คนในพรรคยังหวั่นๆ กันอยู่
เสือออนไลน์