
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 บล.กสิกรไทยฯคาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,555-1,565/1,585 จุด โดยมองตลาดตอบรับเชิงบวกประเด็นการเมืองภายในประเทศและเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ลดลงต่อเนื่อง สำหรับหุ้นแนะนําวันนี้คือ BANPUโดยหุ้น BANPU มีราคาพื้นฐาน 9.4 บาทต่อหุ้น
เอลนีโญ: แล้งสุดขั้ว.. ปีนี้หนาวนาน “ก๊าช-ถ่านหิน” พุ่ง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA) ประเมินว่าปรากฎการณ์ภัยแล้งสุดขั้วหรือ เอลนีโญ ( El Nino) จะดําเนินต่อเนื่องไปจนถึงหน้าหนาวนี้
ซึ่งด้วยความน่าจะเป็น 56% ทําให้มีโอกาสที่หน้าหนาวจะหนาวขึ้นกว่าปกติ มองจะเป็นปัจจัยบวกกับทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้า
โดยล่าสุด ราคาก๊าซธรรมชาติที่ยุโรปปรับตัวขึ้น 16% DoD และ 45% WoW เป็น 36 ยูโรต่อ MWh ขณะที่ราคาถ่านหินปิดลบเล็กน้อย ดังนี้ หากราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นตามก๊าซธรรมชาติจะเป็นโอกาสในการเก็งกําไรหุ้น BANPU ที่ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E ปีนี้ที่ 5x และ PBV 0.6x

Banpu เด่น.. ซ่อนมาร์เก็ตแคปแสนล้าน!
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองน่าสนใจถึงหุ้น BANPU ไว้หลายประเด็น เช่นธุรกิจที่มีสินทรัพย์เป็นประเภทแก๊สธรรมชาติ และถ่านหิน จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งหากซื้อหุ้น BANPU ขณะนี้เหมือนกับว่าเป็นการซื้อล่วงหน้าดักไว้อีก 4-5 เดือน
ถือเป็นการเข้าซื้อหุ้นในช่วงราคาถูก ที่กระทบในด้านของปัจจัยทางฤดูกาล เพราะในช่วงหน้าร้อนนี้ ถือเป็นจังหวะที่ควรจะเข้าสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานถ่านหิน
ขณะเดียวกัน หากมองในมุมของ Valuation นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า ระบุถึงสาเหตุที่ขณะนี้ราคาหุ้นของ BANPU อยู่ในระดับที่ต่ำจนเกินไป
เนื่องด้วยขณะนี้มาร์เก็ตแคปของ BANPU อยู่ที่ระดับประมาณ 70,000 ล้านบาท และมีบริษัทลูกที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่งได้แก่ BPP ซึ่งมีมาร์เก็ตแคป 40,000 ล้านบาท หากคิดในมูลค่าสัดส่วนที่ BANPU ถือ BPP อยู่ 78% จะทำให้มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปในมือจำนวน 34,000 ล้านบาท
อีกทั้ง BANPU ยังมีบริษัทลูกค้า ITMG ที่ประกอบธุรกิจถ่านหินที่อินโดนีเซีย ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าที่ BANPU ถืออยู่จะคิดเป็น 40,000 ล้านบาท
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ มาร์เก็ตแคปของบริษัทลูกในมือ ณ ขณะนี้รองรับบริษัทแม่ไปทั้งจำนวนแล้ว และสิ่งที่น่าสนใจที่กำลังจะเกิดขึ้นคือบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐ คือ BKV Corporation (BKV) ที่กำลังเดินหน้าเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก ที่สหรัฐฯ ซึ่งกระบวนการตอนนี้เหลือเพียงแค่กำหนดวันเข้าเทรด

ทั้งนี้ หากดูตามรายงานข่าวของทางสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ที่เคยระบุว่า มาร์เก็ตแคปของ BKV จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากคิดเป็นเงินไทยจะได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดได้ว่าภายหลังจากที่ BKV เข้าซื้อขายแล้วสัดส่วนการถือหุ้นของ BANPU ในบริษัทดังกล่าวจะลดลงเหลือกี่เปอร์เซ็น สมติฐานโดยทั่วไปจะอยู่กันที่ประมาณ 70-80% ก็จะทำให้ BANPU มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอีกจากทาง BKV อีกประมาณ 35,000 ล้านบาท ดังนั้นหากคิดเป็นโดยรวมแล้วมาร์เก็ตแคปของบริษัทลูกรวมกันก็มีมูลค่ารวมเกินแสนล้านบาทไปแล้ว
อีกทั้งยังมีของดีที่ซ่อนอยู่อย่าง “บ้านปู เน็กซ์” ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ และธุรกิจกรีน เอ็นเนอร์ยี่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันของ BANPU Under Value มาก
สำหรับคำแนะนำนักลงทุน หากไปรอซื้อหุ้น BANPU ในช่วงหน้าหนาว อาจจะไม่ได้ราคาหุ้นที่ถูกแบบขณะนี้ เพราะฉะนั้นจึงแนะนำว่า ราคา ณ ขณะนี้น่าซื้อถือ หรือเก็งกำไร เพราะมีปัจจัยที่สนับสนุนรองรับอยู่แล้ว
สำหรับบรรยากาศการซื้อขายหุ้น Banpu ในวันนี้ (14 มิถุนายน 66) เป็นไปอย่างคึกคัก มีแรงซื้อของนักลงทุนเข้ามาจำนวนมากตลอดในช่วงเปิดตลาดฯ โดยราคาซื้อขายปิดที่ 8.90 บาทต่อหุ้น บวก 0.20 สตางค์ จากราคาปิดครั้งก่อน มีมูลค่าการซื้อขายกว่า 845 ล้านบาท