
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องการเข้าซื้อแหล่งก๊าชธรรมชาติ XTO ในแหล่งบาร์เนตต์ (Barnett) สหรัฐอเมริกา

โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัท BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บ้านปูถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 96.12 ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในแหล่งก๊าชธรรมชาติและครอบคลุมถึงธุรกิจกลางน้ำ (Midstream) บริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติ บาร์เนตต์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา จาก บ. XTO Energy, Inc. and Barnett Gathering LLC (XTO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Exxon Mobil Corporation โดยมีมูลค่าการลงทุนจำนวน 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 25,125 ล้านบาท และมูลค่าผลประโยชน์แก่ผู้ขายในอนาคตโดยรวมไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเงินลงทุนสำหรับโครงการนี้มาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ และการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวอยู่ระหว่างการปฎิบัติตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในสัญญา คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2565

สินทรัพย์ดังกล่าวเป็นแหล่งก๊าชธรรมชาติขนาดใหญ่ประมาณ 160,000 เอเคอร์ ในบริเวณใจกลางของแหล่งก๊าธรรมชาติบาร์เนตต์ โดยมีผลประโยชน์ในหลุมผลิตคิดเป็นร้อยละ 93 ของจำนวนหลุมผลิตทั้งหมดมากกว่า 2,100 หลุม โดยเป็นผู้ดำเนินการผลิตเอง โดยเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนการอัดก๊าชธรรมชาติ บริหารจัดการท่อขนส่งก๊าชธรรมชาติ ครอบคลุมระยะทาง 750 ไมล์ มีสถานีอัดก๊าชธรรมชาติ(Gas Compressor stations) จำนวนมากกว่า 20 สถานี ซึ่งสามารถเข้าถึงตลาดที่มีความต้องการก๊าชธรรมชาติที่สำคัญ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับไว้แล้ว รวมทั้งมีผลติภัณฑ์ที่ผลากหลาย ทั้งก๊าชธรรมชาติ และก๊าชธรรมชาติเหลว (NGL) นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตก๊าชธรรมชาติ คิดตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 225 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มีอัตราการลดลงของการผลิตที่ต่ำ สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง

การลงทุนในครั้งนี้ ทำให้กำลังการผลิตรวมของธุรกิจก๊าชธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาของบ้านปูเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ประมาณ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีปริมาณการสำรองก๊าชธรรมชาติ 1P จากปัจจุบันประมาณ 4.4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต เป็นประมาณ 5.8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต โดยสามารถสร้างพลังร่วม (Synergy) กับแหล่งผลิตเดิมที่มีอยู่ และสร้างโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อการเติบโตในระยะยาว แหล่งก๊าชธรรมชาติแห่งนี้ เป็นแหล่งที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้ว เป็นพื้นที่ที่ BKV มีความคุ้นเคย มีอัตราการลดลงจากการผลิตที่ต่ำ จึงมีความเสี่ยงต่ำลงด้วย อีกทั้งยังตั้งอยู่ในแหล่งที่มีความต้องการก๊าชธรรมชาติที่สำคัญ ในบริเวณรัฐแถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่การดำเนินงาน (Value Chain) และสร้างกระแสเงินสดได้ทันที และจะทำให้ BKV กลายเป็นผู้ผลิตก๊าชธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในแหล่งก๊าชธรรมชาติบาร์เนตต์ พร้อมทั้งการสร้างประโยชน์ร่วม ทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งเทคโนโลยีจากการดำเนินงานในแหล่่งผลิตเดิมที่มีอยู่

การลงทุนในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญตามกลยุทธ์ Greener&Smarter ของบ้านปู ในการเดินหน้าเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจ ขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้น และเทคโนโลยีพลังงาน ยกระดับ Antifragile ในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือทุกความผันผวน รวมทั้งการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน