นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมเวทีเสวนา “Thailand Energy Executive Forum” โดยความร่วมมือระหว่าง สมาคมวิทยาการพลังงาน และ สถาบันวิทยาการพลังงาน แสดงวิสัยทัศน์ “สถานการณ์พลังงานของประเทศ” โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วม ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
นายเศรษฐา กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน” การจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ รวมถึงการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ควรเร่งพัฒนาและจัดหาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนอนาคตของโลกให้กลับสู่สมดุลโดยเร็วที่สุด อีกทั้งราคาพลังงานที่เป็นธรรมและเข้าถึงได้ นับเป็นอีกปัจจัยที่ภาครัฐให้ความสำคัญ โดยหากทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันจุดเปลี่ยนพลังงาน จะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ยั่งยืน
นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมในช่วงเสวนาถึง “ทิศทางพลังงานไทยในปี 2567” ที่ ปตท. เตรียมพร้อมรับความท้าทายในรูปแบบใหม่ ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผ่านการขับเคลื่อนกลยุทธ์ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตขยายสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน พร้อมปรับพอร์ตการลงทุนที่มุ่งเน้นพลังงานสะอาด รวมทั้งการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ พลังงานคาร์บอนต่ำ พลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงเคมีชีวภาพครบวงจร นอกจากนี้ ปตท. ตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าที่ประเทศกำหนดไว้อีกด้วย
ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ควบคู่กับการดูแลรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน เพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้การเปลี่ยนผ่าน ยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างยั่งยืน