
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา มร. โรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เผยผลดำเนินงานและผลประกอบการด้านการเงินของปี 2564 กำไรสุทธิช่วงไตรมาสที่ 4/2564 อยู่ที่ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,855 ล้านบาท) เปรียบเทียบกับกำไรสุทธิช่วงไตรมาสที่ 3/2564 ที่อยู่ที่ 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (113 ล้านบาท)
สำหรับในปี 2564 SPRC มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 4,746 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งขาดทุนรวม 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,005 ล้านบาท)
ค่าการกลั่นของ SPRC เพิ่มจาก 2.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 3/2564 ไปอยู่ที่ 5.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 4/2564 ในขณะที่ค่าการกลั่นปี 2564 อยู่ที่ 3.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มจากปี 2563 ที่อยู่ที่ 2.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยเป็นผลมาจากส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัวหลังการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดย SPRC ยังคงมุ่งสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องผ่านการปรับสัดส่วนการเลือกใช้น้ำมันดิบและผลิตผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมต่อความต้องการของตลาดในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น
ผลการดำเนินงานในปี 2564 ของ SPRC ดีขึ้นโดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้น กำไรจากสต๊อกน้ำมัน และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่าน
ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 มีมติเสนอให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2564 ที่หุ้นละ 0.1785 บาท โดยจะนำยื่นต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีให้พิจารณาอนุมัติในวันที่ 8 เมษายน 2565
บริษัทฯ จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 8 มีนาคม 2565 โดยกำหนดวันจ่ายเงินเป็นวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2565 ได้พิจารณาอนุมัติแล้ว

ทั้งนี้ มีการรายงานข่าวจากบริเวณพื้นที่น้ำมันรั่วที่จังหวัดระยองว่า มีความพยายามจากหลายฝ่ายเข้าไปแก้ปัญหาในจุดที่น้ำมันรั่ว แต่ยังไม่สามรถแก้ปัญหานี้ได้ ทำให้มีกระแสข่าวว่า กรมเจ้าท่าถึงขั้นจะเสนอให้มีการยกเลิกใบอนุญาตเอกชนที่เป็นต้นเหตุให้น้ำมันรั่วลงทะเล ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวและธรรมชาติทางทะเลเสียหายจนประเมินค่าไม่ได้
หมายเหตุ: เกี่ยวกับ SPRC
SPRC เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชั้นนำของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ เป็นแบบที่มีหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว โพรพิลีนเกรดโพลิเมอร์ แนฟทาเกรดปิโตรเคมี น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วเกรดพิเศษและเกรดธรรมดา น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตา และยางมะตอย
