
ติดเบรก! ชั่วคราว...ศึก 3 เส้าในพรรครัฐบาล รอให้เกมซักฟอกผ่านไปก่อน แล้วค่อยชำระแค้นกัน โดยเฉพาะ ปม “ฉีดวัคซีนเต็มแขนประชาชน” ในเมืองเนวินซิตี้ ว่ากันว่า...ทำเอาใครบางคน? ในรัฐบาลเคืองหนัก!
ทฤษฎี “มหาโจรครองเมือง” ที่มักเลือกใช้กลยุทธ์...ดึง “เหล่าโจร” มาใช้งาน เพื่อให้จ้าง “ขโมยและกลุ่มวายร้าย”....มาทำงานให้อีกทอดหนึ่ง!
ถือเป็นการวางแผน...เลือกใช้งานอย่างแยบยลของเจ้านายผู้มากเล่ห์!!!
นั่นเพราะ...กลุ่มคนกลุ่มที่ “ติดกระดุมผิดเม็ด” มาตั้งแต่เม็ดแรกๆ พวกเขาจึงต้องติดกระดุมผิด! ในเม็ดต่อๆ ไป และเมื่อสั่งสมความผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้งาน “โจร, ขโมย และกลุ่มวาย” ก็จะยิ่งง่ายขึ้น!
เพราะคนพวกนี้ จึงกล้าและพร้อมขันอาสาที่จะทำ! ในสิ่งที่...คนดีๆ แม้กระทั่ง กลุ่มคนดีบ้าง...เลวบ้าง ไม่กล้าทำ
แต่ชีวิตจริง!...คงไม่ใครบ้า จะเอาทฤษฎี “มหาโจรครองเมือง” เหมือนในนิยายอิงประวัติศาสตร์ เช่น “สามก๊ก” มาใช้ในองค์กร หรือการบริหารราชการแผ่นดิน...เป็นแน่!
เอาเป็นว่า...ก้าวข้ามกันไป สำหรับทฤษฎีข้างต้น ที่ต้องหยิบเอาให้อ่านแบบขำๆ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ในบ้านเมืองไทย
กลับมาสู่ความเป็นจริงในทางการเมืองยุคปัจจุบัน....
หลายคนมีคำถาม “รัฐบาลลุงตู่” ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะยังบริหารประเทศต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่?
ท่ามกลางกระแสการโจมตีจากถนนทุกสาย...ไม่ว่าจะเป็น ถนนสายเศรษฐกิจ สายการเมือง โดยเฉพาะสายสาธารณสุข กับภาพความตายรายวันและยอดผู้ติดเชื้อโควิดฯ ที่พุ่งปรี๊ดเป็นปรอทแตก!
ติดเชื้อใหม่ต่อวันเฉลี่ยระดับ 2 หมื่นคน...บวกลบ! ยอดตายหลัก 2-3 ร้อยต่อวัน จนทำให้ยอดป่วยสะสม (27 สิงหาคม 2564) ทะลุ 1.14 ล้านคนไปแล้ว ขณะที่คนตายสะสมก็เกิน 1 หมื่นคนเช่นกัน

ยิ่งช่วงต้นสัปดาห์หน้าของเดือนสิงหาคมนี้...นับแต่ปลายเดือน ต่อเนื่องถึงต้นเดือนหน้า...จะถึงคิว “อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” กับการซักฟอก 5+1 รัฐมนตรี นำโดย พล.อ.ประยุทธ์
สถานการณ์ของรัฐบาลที่มีข่าวระส่ำเป็นการภายใน...ออกมาตลอด ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ถึงวันนี้...ตอนนี้ ยังจะไหวอยู่หรือไม่?
ดูจากรายชื่อของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายฯ แล้ว...3 พรรคใหญ่ แกนนำรัฐบาลฯ ที่อาจจะเคยกินแหนงแคลงใจกันก่อนหน้านี้ คงต้องหยุดพัก “ศึกภายใน” เป็นการชั่วคราว เพื่อหันมา “รับมือ” กับพรรคฝ่ายค้านฯ กันก่อน
เรื่อง “พวกมากลากไป” หรือ ถึงขั้นเป็น “เผด็จการรัฐสภา” จะไม่มีทางถูกนำมากล่าวพาดพิงรัฐบาลชุดนี้ เหมือน ยุค “รัฐบาลทักษิณ” เป็นแน่...
เพราะอีกฝั่ง...ไม่พิศมัยจะใช้ “วาทะกรรมการเมือง” เหมือนที่ฝั่งซึ่งสนับสนุนรัฐบาลและแนวร่วมรัฐบาลชุดนี้ ชอบนำมาใช้กัน ฉะนั้น พอคาดเดาได้ว่า...ที่สุด! เมื่อถึงคิวต้องลงคะแนนเสียง “ไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจฯ” รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ทุกคนที่โดนซักฟอก!...จะสอบผ่านกันได้หมด
และคนในพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะสร้าง “สตอรี่” ตามมา เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหลัก และกลบในเรื่องที่พรรคฝ่ายค้าน...หยิบเอาเอกสารและหลักฐานมาแฉ! และตีแผ่ให้ได้เห็น
“สตอรี่” ที่ว่าก็คือ...รัฐมนตรีคนนั้นมีเสียงสนับสนุนเยอะ! แต่รัฐมนตรีคนนี้ได้เสียงสนับสนุนน้อย? ใคร...จากฝั่งไหน...พรรคใด...ที่ทำเสียงหาย ล้วนเป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนประเด็นจุดสนใจของสังคมไทย และสื่อก็จงใจงับเอาไปเป็นประเด็น “เล่นข่าว” กันให้ควั่ก!
แม้กระทั่ง การซื้อเสียงจาก ส.ส.ฝ่ายค้านของบางพรรค ให้มาลงคะแนน “ไว้วางใจ” รัฐมนตรีบางคน? จากบางพรรค? ก็อาจจะมีให้เห็นกัน
นั่นเพราะ...รัฐบาลหวังเพื่อให้เกิดกระแส “เบี่ยงเบน” ประเด็นหลักสำคัญ ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านหยิบมาพูดในสภาฯ
ทั้งหมด...เป็นเรื่องปกติที่พอเข้าใจและคาดเดากันได้! เพราะมันเป็นอย่างนี้ ในทุกครั้งที่มีการ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” มาโดยตลอดในช่วงหลายสิบปีมานี้
แต่หลังจาก เสร็จศึกซักฟอกนี่สิ! “ศึก 3 เส้า” ระหว่าง...พรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย จะกลับเข้าสู่โหมดปกติ นั่นคือ “กดดันและต่อรอง” กันและกัน
สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้ “กำจัด-ข้าราชการโกง” เช่น กรณี “ผกก.โจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก. สภ.เมือง นครสวรรค์ หรือ “โจ้ เฟอร์รารี่” จำเลยที่ 1 ในคดี “คลุมถุงดำฆ่าผู้ต้องหาค้ายาเสพติด”
หลังพบพฤติกรรมอันน่าเคลือบแคลง ไม่ว่าจะเป็น...การปราบรามและจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งเป็น “ธุรกิจสีดำ” ไปจนถึง “ธุรกิจเทา” เช่น...การทำรังนกนางแอ่น และลักลอบนำเข้ารถหรูลักซ์ชัวรี่
ประเด็นคือ เหตุใด “หัวหน้ารัฐบาล” จึงหยุดที่การ “กำจัด-ข้าราชการโกง” โดยไม่พูด “นักการเมืองโกง” กันบ้าง?
ส่วนหนึ่งเพราะ...ต้องการจะโหนกระแส? และพ่วงคดี “ผกก.โจ้” เบี่ยงเบนประเด็นสังคมไทย ให้หันมาโฟกัสเรื่องนี้...แทนปมการเมืองที่กำลังเร่าร้อนไม่ต่างกันนัก ใช่หรือไม่?

แต่ที่แน่ๆ ปมขัดแย้ง เรื่อง “วัคซีนต่อต้านโควิดฯ” ระหว่าง...พรรคพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ยังหาทางลงดีๆ ไม่เจอ
นั่นเพราะ “เนวินซิตี้” หรือ จังหวัดบุรีรัมย์ ฐานที่มั่นหลักสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ได้รับวัคซีนฯ ชั้นดี เกรด A จากกระทรวงสาธารณสุข แซงหน้าจังหวัดพื้นที่สีแดงอื่นๆ อย่างมากมาย จนเต็มแขนของประชาชนในพื้นที่ไปหมดแล้ว
ตรงนี้...กลายเป็นประเด็นสังคม ที่ไหลกลับมาด่าตัว พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.ศบค. และถืออำนาจสูงสุด ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ปล่อยให้เรื่องพรรค์นี้...เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ทั้งที่ความเป็นจริง! ระดับ...พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่รู้อะไรลึกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก จะว่าไป...นายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้าทำงานในแบบ Work from Home รอรายงานจากคนระดับล่าง ไม่มีทางรู้? กระทั่ง ตกเป็นข่าวหรือมีคนรายงาน
การจะแก้ไขปัญหาใดๆ...จึงไม่ทันการ มิต่างจากวลี...วิ่งไล่จับเงา!
ดังนั้น ระหว่างที่ทุกฝ่ายในรัฐบาลกำลังก้าวเข้าสู่โหมด “ซักฟอก” จำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ ต้องติดเบรกในเหตุพิพาททุกเรื่องกับพรรคร่วมรัฐบาลเอาไว้ก่อนชั่วคราว
เพราะ 2 พรรคใหญ่ในฝ่ายรัฐบาล...ส่งสัญญาณมาแล้วว่า หากฝ่ายค้านมีหลักฐานข้อมูลเด็ด และนำมาโชว์ให้ ส.ส.ในสภาฯได้รับรู้ถึงเส้นสนกลในแห่งความฉ้อฉล...อนธกาลของรัฐบาล ล่ะก็...
อาจถอนตัวจากรัฐบาลได้!!!
นี่คือ...อีกหนึ่งเกมการต่อรองที่สำคัญของนักการเมือง ที่มักจะใช้ความเพลี้ยงพล้ำน้อย...ไปต่อรองกับความเพลี้ยงพล้ำมากของพรรคแกนนำรัฐบาล
ระหว่าง...พลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐกับภูมิใจไทย แม้กระทั่ง ประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย เองก็เหอะ! ถึงวันหนึ่ง...ที่ผลประโยชน์ไม่ลงตัว? ปฏิกริยา “สนิมเนื้อใน” อาจสำแดงให้คนนอกได้เห็นกันบ้าง
แต่ระหว่างนี้...ก็จะอาจมีบางตอนของเรื่อง ที่มีความคล้ายคลึงกับบางทฤษฎี? แต่จะคล้ายคลึงกันในเรื่องใดบ้าง?
อดใจรอข้อมูลเด็ดๆ จากพรรคฝ่ายค้าน ก็แล้วกัน!