
รายงานข่าวบรรยากาศการซื้อขายหุ้นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ Banpu ในวันนี้ (16 ธันวาคม 2563) เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เปิดตลาดฯ ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายเดือนถึง 10.20 บาทต่อหุ้น จนกระทั่งปิดการซื้อขายในเวลา 16.30 น.หุ้น Banpu ปิดการซื้อขายที่ 10.10 บาทต่อหุ้นหรือเพิ่มขึ้นถึง 1 บาทต่อหุ้นหรือเพิ่มขึ้น 10.99% มูลค่าการซื้อขายร้อนแรงกว่า 4,445 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้การซื้อขายหุ้น Banpu ร้อนแรง ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้ข่าวที่เป็นปัจจัยบวก โดยในวันเดียวกัน นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือแจ้งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยาบูกิ ประเทศญี่ปุ่น
โดยระบุว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยางูกินประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัท BRE Singapore Pte Ltd (BRES) บริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (Banpu NEXT) (Banpu และบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน) ถือหุ้นใน Banpu NEXT ในสัดส่วนที่เท่ากันร้อยละ 50) ภายใต้โครงสร้างการลงทุนแบบ “ทีเค” (ทีเค คือ การลงทุนโดยการเป็นหุ้นส่วนแบบญี่ปุ่นตามสัญญาระหว่างนักลงทุนและผู้ดำเนินกิจการ โดยนักลงทุนจะลงทุนจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้ดำเนินกิจการ (ในรูปของเงินสดหรือทรัพย์สินที่มีมูลค่า) โดยได้รับผลตอบแทนในรูปของสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่งปันกำไรที่เกิดจากกิจการร่วมลงทุน) ร้อยละ 75 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในวันที่ 16 ธันวาคม 2563
โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว ตั้งอยู่ ณ จังหวัดฟูกูชิมะ มีกำลังการผลิตรวม 7 เมกะวัตต์ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัท Tohoku Electric Power Co.,Inc เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยมีราคารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff (FIT) 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ชุมชนราว 1,700 ครัวเรือน และได้รการตั้งชื่อเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “Sawadee Yabuki Hatsudensho”
ขณะนี้ Banpu NEXT มีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 17 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนที่ลงทุน 240 เมกะวัตต์ ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วตามสัดส่วนที่ลงทุน 87.89 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยเน้นการลงทุนในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล
