
กรณีที่ดิน "เขากระโดง" ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ใจกลางอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ถูกนักการเมือง พ่อค้าวาณิชย์ และประชาชนบุกรุกเข้ายึดถือครอบครองใช้ประโยชน์กำลังร้อนเป็นไฟ!
…
บางพื้นของพื้นที่ มีการออกเอกสารสิทธิทับซ้อนกับที่ดินการรถไฟฯ ด้วย จนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีมานับทศวรรษ ทั้งคดีแพ่ง (ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา) ศาลปกครองระหว่างเอกชนกับหน่วยงานของรัฐ (การรถไฟ , กรมที่ดิน) และระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน
ทั้งยังมีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นที่ยุติในคำพิพากษาและความเห็นของหน่วยงานดังกล่าวว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 5,000 ไร่เศษ เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว หรือ การออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว เป็นการกระทำที่ละเมิดต่อการรถไฟฯ ซึ่งศาลได้มีคำสั่ง "ถึงที่สุด" ให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่ครอบครองออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว ส่วนที่มีเอกสารสิทธิก็ให้กรมที่ดินทำการเพิกถอน
ท้ายคำพิพากษา ยังมีคำสั่งให้ "กรมที่ดิน" ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินเพื่อทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะกรรมการตามมาตรา 61 ทำการรังวัดสอบเขตการรถไฟบริเวณเขากระโดงด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้อธิบดีกรมที่ดิน จะมีคำสั่งตั้ง "คณะกรรมการตามมาตรา 61" ตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง แต่คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวกลับ "เพิกเฉย" ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล
โดยนอกจากจะไม่ลงไปดำเนินการรังวัดสอบสวนเขตร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามคำสั่งศาลแล้ว จากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า มีการตั้งบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมือง ที่มีส่วนได้-เสียในที่ดินพิพาทร่วมเป็นกรรมการตามมาตรา 61 ด้วย

และเมื่อการรถไฟฯ ได้ขัดส่งข้อมูลระวางแผนที่แนวเขตรถไฟไปให้คณะกรรมการเพื่อดำเนินการรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินรถไฟตามคำสั่งศาล คณะกรรมการชุดดังกล่าวกลับทักท้วง และโต้แย้งข้อมูลระวางแผนที่แนวเขตการรถไฟที่ส่งมา โดยอ้างเป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นใกมาในปี 2539 ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฎษฎีกา ว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ.2464 ทั้งยังมีการหยิบยกประเด็นอื่นๆ ขึ้นมาโต้แย้งเพื่อขี้ให้เห็นว่าระวางแผนที่แนวเขตรถไฟยังมีความไม่ชัดเจน
ก่อนที่อธิบดีกรมที่ดินจะสั่งให้คณะกรรมการตามมาตรา 61 ยุติการดำเนินการตรวจสอบรังวัดร่วมกับการรถไฟฯ และปฏิเสธการ "เพิกถอน" เอกสารสิทธิในพื้นที่การรถไฟฯ เขากระโดงตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรคแปด
ก่อให้เกิดคำถาม และข้อกังขาทั้งจากการรถไฟฯ และสังคมว่า เหตุใดกรมที่ดิน จึงเพิกเฉยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล ที่ให้ "คณะกรรมการตามมาตรา 61" ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตที่ดินการรถไฟในบริเวณเขากระโดงร่วมกับการรถไฟฯ เพื่อทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว
แต่กลับดำเนินการ "โต้แย้ง" ระวางแนวเขตที่ดินที่การรถไฟฯ นำออกมายืนยันเสียเอง ก่อนจะ "ตัดบท" ยุติการลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตที่ดินของการรถไฟฯ ก่อนที่ในท้ายที่สุดอธิบดีกรมที่ดินจะมีมติไม่ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามคำพิพากษาของศาลด้วยอีก
ไม่เพียงแต่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลยุติธรรม "คณะกรรมการตามมาตรา 61" และอธิบดีกรมที่ดิน ยังไม่ปฏิบัติตามความเห็นที่เป็นข้อยุติ ทั้ง สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่มีต่อกรณีนี้ ซึ่งได้ให้กรมที่ดินดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามมาตรา 53 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
จะด้วยข้ออ้างประการใดๆ แต่สิ่งที่กรมที่ดินดำเนินการไปก่อนหน้า ล้วนเข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน กระทำการอันเป็นการเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐ จงใจให้เอกชนเข้าครอบครองที่ดินของรัฐด้วยการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ แม้มีคำสั่งศาลแล้วก็กลับไม่ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธินั้น อธิบดีกรมที่ดินและคณะกรรมการตามมาตรา 61 จึงล้วนอยู่ในข่ายกระทำผิดตามมาตรา 151 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่สมควรจะต้องถูกดำเนินคดีในชั้น ป.ป.ช.

ถามว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐ ทั้งการรถไฟฯ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยมีการฟ้องร้อง กรมที่ดินต่อกรณีความพยายาม "ดึงเช็ง" เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่ ?
คำตอบก็คือ มีมาแล้ว ทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ให้ตั้งกรรมการไต่สวน "นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ กรณีไม่สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินเขากระโดง รวมถึงคดีตรวจสอบความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อนายศักดิ์สยาม กรณีมีบ้านพักบนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ เพื่อประโยชน์ธุรกิจตนเองและเครือญาติด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังได้สั่งให้ดำเนินการ "ไต่สวน" อธิบดีกรมที่ดินว่า เหตุใดถึงไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิบนที่ดินของการรถไฟฯ ในฐานะผู้ออกเอกสารสิทธิ รวมถึงสั่งให้มีการไต่สวนการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานเจ้าของที่ดินว่า เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
แต่ความคืบหน้าในเรื่องเหล่านี้ก็กลับ "เงียบหายเข้ากลีบเมฆ" ไม่รู้ว่าจะไต่สวนกันเสร็จไหมในชาตินี้ ทำให้อธิบดีกรมที่ดิน และนักการเมือง "ขี้ฉ้อ" ทั้งหลายกล้าออกมาท้าทายอำนาจรัฐและศาล
"ไม่มีใครรุกที่ดินเขากระโดง มันตั้งของมันอยู่อย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไร...."