ภาษิตโบราณท่านว่าไว้ "รู้เขา – รู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง"
…
วันก่อนเหลือบไปเห็นคลิปสั้นๆ ของ "แม่ทัพภาค 2" ที่กล่าวกับน้องๆ นักศึกษาในสถาบันแห่งหนึ่ง ก่อนสื่อต่างๆ นำไปโค้ดส่งต่อๆ กันไปจนท่วมโซเชียล....
หากวันใดทหารเขมรลั่นไกปืนใส่ไทย รับรองว่า "ไม่เกิน 3 วัน ทุกอย่างจบ" เพราะได้เตรียมไว้หมดแล้ว
ทำเอาเครือข่ายผู้รักชาติ อยากพลีชีพเพื่อชาติทั้งหลายมีจิตใจฮึกเหิมขึ้นมาทันที อยากเห็นแม่ทัพกรีฑาทัพเผด็จศึกกัมพูชาให้รู้แล้วรู้แร่ด !
แน่นอน! ด้วยศักยภาพทางทหาร กำลังรบ อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ไทยมีเมื่อเทียบกับกัมพูชาแล้ว คำว่า "ไม่เกิน 3 วัน" ก็สามารถ "บดขยี้" เขมรจนไม่เหลือซาก ก็ไม่น่าจะห่างไกลความเป็นจริงแน่!
แต่...หากทำได้แบบนั้นจริง แล้วเหตุใด "รัสเซีย" ที่ได้ชื่อว่ามีศักยภาพทางการรบ 1 ใน 5 ของโลกแท้ๆ ถึงไม่สามารถบดขยี้ดินแดน "ยูเครน" ที่ไม่อาจเทียบชั้นใดๆ กับรัสเซียได้เลยหล่ะ
กว่า 3 ปี นับตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ 2023 ที่รัสเซียซึ่งมีความพร้อมสรรพด้านกำลังรบที่เหนือกว่ายูเครนในทุกๆ ด้าน(ไม่ต่างจากที่กองทัพไทยเคลมว่าเหนือเขมร) เปิดฉากสงครามถล่ม "ยูเครน" ส่งทหารกว่า 2 แสนนาย รถถังอีกหลายร้อยคันข้ามพรมแดนยูเครนไปนั้น
วันนี้ยังไม่สามารถบดขยี้และปิดฉากสงครามที่ว่าได้เลย
แล้วประเทศไทยเรา ที่นัยว่ามีศักยภาพทางการทหารอันดับ 25 ของโลก มีอะไรที่เหนือกว่ากองทัพรัสเซียหรือ? ถึงได้มั่นใจว่าเราจะสามารถ "บดขยี้" เขมรให้ราบเป็นหน้ากลองได้ใน 3 วัน
กลัวแต่ว่า หากไทยเราระอุศึกเลือดขึ้นมาจริงๆ เราเองนั่นแหล่ะ จะเละเป็นโจ๊กก่อนกัมพูชาเพราะถูกนานาชาติรุมประณามและถูกโดดเดี่ยวจนไม่มีที่ยืนในสังคมโลกเสียมากกว่า
เราไม่เถียงหรอกว่า หากกำลังทหารไทยจะกรีฑาทัพบดขยี้คนไทยด้วยกันเอง ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดย่อมกระทำได้ไม่เหลือซากแน่ เพราะทหารไทยย่อมรู้จักยุทธศาสตร์ รู้จักพื้นที่รู้จักถนนหนทางทุกซอกมุกมุมในประเทศตนเองได้เป็นอย่างดี
หลับตาขับรถถังวิ่งบนถนนยังเข้ากรุงเทพฯ ได้ถูกก็แล้วกัน
แต่การจะส่งกำลังรบกำลังทหาร ส่งรถถังรถลำเลียงบุกเข้าไปยึดประเทศเขาดื้อๆ แบบที่รัสเซียเคยทำเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น หากเราไม่รู้จักภูมิประเทศ ถนนหนทาง จุดยุทธศาสตร์อะไรของอีกฝ่ายเลย
มันก็เหมือน “เอาผ้าผูกตา” กำลังพละกำลังรบเดินข้ามประเทศดีๆ นี่เอง ขับรถถัง รถกำลังพลไปตกคู ตกน้ำ หรือหลงตายอยู่กลางป่า ไม่ถูกถูกถล่มซุ่มโจมตีรอบด้าน เผลอๆ พลขับขับวนไปมาทั้งวันหลงตายอยู่ข้างพรมแดนนั่นแหละ
กองทัพรัสเซียเป็นตัวอย่างให้เห็น เคลื่อนพลร่วม 2 แสน ข้ามพรมแดนยูเครนตั้งแต่ 3 ปีก่อน จนวันนี้กองทัพรัสเซียบุกยึดเมืองหลวงยูเครน (เมืองเคียฟ) ได้หรือยัง?
ขบวนรถถังรัสเซียเข้าไปเบิ้ลเครื่องคำรามแสนยานุภาพใจกลางเมือหลวงยูเครนได้หรือยัง?
ทุกวันนี้รัสเซียต้องหันมาใช้ "โดรนทำลาย" และขีปนาวุธพิสัยไกลยิงถล่มเมืองต่างๆ ของยูเครนเท่านั้น ท่ามกลางแรงเสียดทานและการรุมประณามจากนานาชาติรอบด้าน
ขนาดประธานาธิบดีปูติน ที่ได้ชื่อว่า บ้าดีเดือดที่สุดใน 3 โลกแล้ว ยังไม่กล้ากระทำการรุนแรงไปกว่านี้ ไม่กล้าตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มยูเครนให้สิ้นซาก แล้วประเทศไทยเรามีแม่ทัพนายกองคนไหนที่จะบ้าดีเดือดเลือดพล่านใกล้เคียงประธานาธิบดี "ปูติน" บ้างหล่ะ
ดังนั้น หนทางที่จะเอาชนะสงครามกัมพูชาได้ จึงเหลืออยู่แต่การใช้อาวุธพิสัยไกล จะปืนใหญ่หรือการส่งเครื่องบินรบ เครื่องบินทิ้งระเบิดบุกเข้าไปถล่มโจมตีจุดยุทธศาตร์ทางการทหารเท่านั้น
แต่นั่นก็สุ่มเสี่ยงที่จะพลาดเป้าหมายไปเข่นฆ่าเอาพลเรือน สร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือนประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย ทำให้สงครามกลายเป็นอาชญากรรมที่กระทำต่อเพื่อนมนุษย์ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกนานาชาติรุมประณามอย่างเลี่ยงไม่ได้
เอาแค่ว่า หากเราตัดสินใจส่งฝูงบินรบ ฝูงบินทิ้งระเบิดเข้าไปปูพรมฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ ที่มั่นทางการทหาร หรือแม้แต่อาณาจักรบ้านพักของ "สมเด็จฮุนเซ็น" ก็เถอะ แต่หากรายงานที่ออกมาระบุว่า อาวุธหนักที่เราปูพรมถล่มเข้าไป หรือเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บุกเข้าไปปูพรมทำลายฐานที่มั่นทางการทหารเหล่านั้น
แต่หากรุ่งขึ้น ทั้งจีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย ต่างออกแถลงการณ์ประณามเรื่องที่เราส่งฝูงบินไปถล่มอาคาร หรือสำนักงานทางธุรกิจของเขาที่ไปลงทุนอยู่ในประเทศนี้ จนทำให้พลเรือน เด็ก สตรี เสียชีวิตนับสิบ หรือนับ 100 หรือนับพันแล้ว
เราจะชี้แจงประเทศเหล่านั้นว่าอย่างไร จะเอาตัวรอดจากการถูกนานาชาติประณามหรืองัดมาตรการตอบโต้บอยคอตประเทศไทยได้อย่างไร?
ถึงบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากคิดจะลากเอารถถัง ลากปืนใหญ่ ขนอาวุธยุทโธปกรณ์บุกเข้าไปถล่มประเทศเพื่อนบ้าน หวังจะเผด็จศึกให้ได้ภายใน 3 วัน 5 วัน
หากทำได้ง่ายๆ แบบนั้น ป่านนี้ยูเครนคงไม่เหลือสภาพเป็นประเทศแล้ว
ก็คงเพราะเหตุนี้ "น้าชาติ" พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ จึงมีนโยบายให้เปลี่ยน "สนามรบเป็นสนามการค้า" เปลี่ยนข้อพิพาทและความขัดแย้งทั้งมวลมาเป็นการค้าการลงทุนระหว่างกันจนไทยและกัมพูชามีปมาณการต้าระหว่างกันสูงถึง 350,000 ล้านบาทในปัจจุบัน
แต่ทั้งหมดกำลังจะพังครืนลง เพราะความงี่เง่าของพวกคลั่งชาติเกินขอบเขตของในบางกลุ่มกันจริงๆ พับผ่า!
แก่งหิน เพิง
