
ชี้สามารถแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนัก สมองไหล โรงพยาบาลมีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย ได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ โดยประชาชนสามารถสนับสนุนช่วยร่วมลงชื่อเสนอร่าง กม. นี้ ในเว็บไซด์ของรัฐสภาครบ 10,000 คน ก่อน 1 ธันวาคม 2568 นี้!
…
หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน จะเกิดผลดีและเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากรสาธารณสุขอย่างมีนัยสำคัญ โดยสรุปเป็น 5 ประเด็นหลัก ดังนี้…
1. การจำกัดชั่วโมงทำงานและประกันเวลาพักผ่อน (Work-Life Balance)
นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดของร่างนี้ เพื่อแก้ปัญหาการทำงานหนักเกินไป (Overwork) โดยมีการกำหนดเพดานชัดเจน:
* จำกัดชั่วโมง OT: ห้ามทำนอกเวลาราชการเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
* จำกัดกะดึก: ห้ามอยู่เวรกะดึก (เที่ยงคืน-8 โมงเช้า) เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และต้องได้พักทันทีอย่างน้อย 8 ชั่วโมงหลังลงเวร
* เวลาพักผ่อนขั้นต่ำ: ต้องมีเวลาหยุดพักไม่ต่ำกว่า 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และต้องมีวันหยุดอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์

2. ค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและอัตราก้าวหน้า (Fair Compensation)
ร่างนี้กำหนดอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำไว้ชัดเจน ไม่ใช่เหมาจ่ายแบบเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้สอดคล้องกับภาระงานจริง:
* ค่าล่วงเวลา (OT): ต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 1.5 เท่า ของค่าจ้างรายชั่วโมงปกติ
* ค่าทำงานวันหยุด: ต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของค่าจ้างรายชั่วโมงปกติ
* ค่ากะดึก: ได้เพิ่มอีก 20% จากค่าจ้างปกติ
* เบี้ยความเสี่ยง: สำหรับงานฉุกเฉิน หรือจุดเสี่ยงสูง (เช่น ER, ICU, OR) จะมีสิทธิได้รับเบี้ยความเสี่ยงพิเศษเพิ่ม

3. ความปลอดภัยและสวัสดิภาพในการทำงาน (Safety & Welfare)
สถานพยาบาลต้องจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำงานและปลอดภัย:
* ห้องพักเวร: ต้องจัดหาห้องพักผ่อนที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับคนที่ขึ้นเวรดึกหรือนอกเวลา
* ความปลอดภัย: ต้องมี รปภ., กล้องวงจรปิด และมาตรการป้องกันความรุนแรงจากการถูกข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายจากผู้ป่วย/ญาติ รวมถึงมีกฎหมายคุ้มครองหากถูกละเมิด
4. การคุ้มครองทางกฎหมายและการทำงานโดยสมัครใจ (Legal Protection)
ร่างนี้ปกป้องบุคลากรจากการถูกบังคับและการฟ้องร้องในบางกรณี:
* ความสมัครใจ: การอยู่เวรนอกเวลาราชการ (OT) ต้องเกิดจากความสมัครใจ ห้ามบังคับ และห้ามนำเรื่องนี้มาประเมินผลงานฝาก
* การคุ้มครองความรับผิด: หากบุคลากรต้องทำงานเกินเวลาเพราะขาดแคลนคน หรือเหตุจำเป็น แล้วเกิดความผิดพลาด (ที่ไม่ได้เจตนาหรือประมาทเลินเล่อร้ายแรง) กฎหมายนี้ระบุให้ พ้นจากความรับผิดทั้งปวง (Immunity) โดยให้หน่วยงานรับผิดชอบแทน

5. กองทุนเยียวยาเมื่อบุคลากรได้รับความเสียหาย (Compensation Fund)
มีการตั้ง "กองทุน" และคณะกรรมการเพื่อดูแลเมื่อบุคลากร "เจ็บ" หรือ "เสียหาย" จากการทำงาน:
* เงินช่วยเหลือเบื้องต้น: หากบุคลากรได้รับความเสียหายทางกายหรือใจจากการดูแลผู้ป่วย สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันที โดยไม่ต้องรอผลคดีและไม่ตัดสิทธิสวัสดิการอื่น
* อิสระทางวิชาชีพ: กฎหมายรับรองให้บุคลากรมีอิสระในการตัดสินใจรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ ไม่ถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก
สรุป : ร่าง พ.ร.บ. นี้มุ่งเน้นการ "คืนความเป็นมนุษย์" ให้บุคลากรสาธารณสุข โดยใช้กฎหมายบังคับไม่ให้รัฐใช้งานบุคลากรจนเกินขีดจำกัดทางร่างกาย พร้อมทั้งการันตีรายได้และความปลอดภัยที่เหมาะสมครับ

หมายเหตุ :
ถ้าไม่อยากให้ลูกหลานเรา ว่าที่น้องบุคลากรการแพทย์ที่ล้ำค่าในนี้ ตกในสถานการที่ลำบากเกินคน ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ชาวบ้านต้องได้รับผลกระทบจากการที่พวกเขาทำงานหนักเกินคน เราต้องเปลี่ยนแปลง ...
ผลลัพธ์จะเหมือนเดิม ถ้าเราไม่เปลี่ยน ..... เราแค่ต้องการให้ระบบเป็นไปตามที่มันควรจะเป็นเท่านั้น
ช่วยกัน ๆ ลงชื่อ เพื่อนำ พรบ.นี้ ขึ้นพิจารณาให้ทันสมัยประชุมนี้ด้วย (ภายในวันที่ 1 ธค.นี้)
- การลงชื่อ มี 3 ช่องทาง คือ
1. เวปไซต์ https://einitiative.parliament.go.th/?fbclid=Iwb21leAOIIq1jbGNrA4gim2V4dG4DYWVtAjExAHNydGMGYXBwX2lkDDM1MDY4NTUzMTcyOAhjYWxsc2l0ZQIyNQABHlT4cwuv9CjOx-6qmY8BRoGFF6MkEGfM3NGBd6aVh96bJPyDEadR_z6X8Eld_aem_2bDnvtGsONtLixKbYN_sgA
2. พิมพ์แบบฟอร์มลงชื่อด้วย "ตัวบรรจง" แล้วสแกนส่ง คุณหมอวีระพันธ์ สว. ส่งเป็นไฟล์ PDF หรือ ไฟล์ภาพ มาได้ที่ Email: veerapun.su@senate.go.th
3. ส่งเอกสารได้ทางขนส่งต่างๆ
พิสิษฐ์ ลักษณ์สุชน 0893656494
116/3 หมู่8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000