
ธรรมนัส มายืนอยู่แถวหน้าของบรรดานักการเมืองด้วยเวลาที่รวดเร็วยิ่ง
แม้ครั้งแรกก้าวเข้าสู่การเมืองอยู่กับพรรคไทยรักไทย ยังโนเนม เป็น ส.ส.สอบตก
แต่จับทางเข้าถึงสมัยลุงตู่ ไต่เต้าขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตร
มีปัญหากับลุงตู่พลิกไปอยู่กับลุงป้อม ขึ้นอันดับเป็นคนใกล้ชิด
พอลุงป้อมตก กลับเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจของทักษิณ เสน่ห์มนต์ขลังของผู้กองยอดรักไม่เสื่อมคลาย
จึงต้องถือว่า ธรรมนัส มีความสามารถ คุณสมบัตินักการเมืองครบเครื่อง ภายนอกดูอ่อนน้อม แต่ภายในล้ำลึก

ต่อมาตั้งพรรค “กล้าธรรม” มี ส.ส. ยกโขยงเข้าสังกัด ทั้งเก่า ทั้งใหม่
ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อไทย จะลุยช่วยภาคใต้ เพราะเพื่อไทยเจาะไม่เข้า
ต้องอาศัย “ผู้กองนัส” ลุยสร้างฐานพันธมิตรขยายสาขาภาคใต้
วงการเมืองรู้ว่าธรรมนัสใจถึงพึ่งได้ของแท้ กระสุนยิงไม่มีสะดุด ถึงไหนถึงกัน ไม่มั่ว รู้เป้าหมาย เป็นมวยมีฟอร์ม
แต่ต่อมานรกเป็นใจ “คลิปฮุนเซน” หลุด
ธรรมนัสตีจากเพื่อไทยอย่างไวเหมือนนกรู้ เข้าร่วมพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาลอนุทินอย่างถูกจังหวะ

พรรคประชาชนมัวห่วงแต่ร่าง MOA กังวลรัฐธรรมนูญ และเกรงลุงตู่จะกลับมา แต่ไม่เคยรู้ฤทธิ์ของผู้กองธรรมนัส
ขึ้นอันดับจนพรรคประชาชนคาดไม่ถึง ปล่อยเสือเข้าป่าแล้วต้องมาตามจับทีหลัง
แต่มันไม่ง่าย เพราะธรรมนัสกลายเป็น “เสือติดปีก” ไปเสียแล้ว
ขนาดทักษิณยังถึงกลับครวญว่า “พลาดที่ไปไว้ใจธรรมนัส”
ในการเมืองไทย คนที่หักได้ย่อมเจริญเติบโตรวดเร็ว ยิ่งหักดิบก็ยิ่งขึ้นสูง
ส่วนคนที่หักไม่ได้ งอไม่ได้ มักจะอยู่กับที่ไปได้ไม่กี่ศอก
เป็นสัจธรรมของการเมืองไทย

วันนี้ธรรมนัสพุ่งเร็วดั่งจรวด ขึ้นพรวดเป็นรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีเกษตร ที่สมัยอยู่กับทักษิณไม่ให้เป็น เพราะกลัวเรื่อง “จริยธรรม”
แม้มีเรื่องราวติฉินนินทาต่างๆ นานา มากมายของ ร.อ. มนัส ในอดีต หรือธรรมนัสในปัจจุบัน
ยังเอาตัวรอดได้แบบชิลๆ และเติบโตเอาๆ อย่างหยุดไม่อยู่
แม้ว่า “ชื่อเสีย” ของธรรมนัสในอดีตใครจะว่าอย่างไร แต่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ เอื้อมไปไม่ถึง
และกลับกลายเป็นภูมิคุ้มกันข้อบกพร่องเสียอีก
แต่ความจริงธรรมนัสนั้นเป็น “ระเบิดเวลา” ที่รอวันระเบิด กับจังหวะก้าวเดินที่พุ่งเร็วอย่างกับพลุแตก
วันนี้กับวันก่อนธรรมนัสจึงมีสถานะทางการเมืองที่แตกต่างอย่างยิ่ง ด้วยตำแหน่งสูงถึง “รองนายกฯ”
ถือเป็นธรรมดาของโลก อะไรที่พุ่งขึ้นเร็วย่อมตกเร็วตามกฎแรงโน้มถ่วง หรือว่าจะเป็นกฎแห่งกรรมก็แล้วแต่
มันเกินที่จะคาดเดากับการเมืองไทยในยุคนี้
โดย..ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์