
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ของ “ออกญา ลี ยงพัด” (Ly Yong Phat) สมาชิกวุฒิสภากัมพูชา และนักธุรกิจใหญ่เชื้อสายไทย–จีน เจ้าของกลุ่มบริษัท LYP Group หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงกับเครือข่าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่ใช้ฐานปฏิบัติการในประเทศกัมพูชา
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบล่าสุด พบว่า ลี ยงพัด หรือชื่อไทยว่า “พัด สุภาภา” ถือบัตรประชาชนของประเทศไทย และมีชื่ออยู่ในเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับ รีสอร์ต–คาสิโนโอเสม็ด (O’Smach Casino) ซึ่งถูกใช้เป็นแหล่งเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์และการฟอกเงินระหว่างประเทศ

เจ้าหน้าที่ ปปง. จึงได้อายัดทรัพย์สินในประเทศไทยมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาทไว้เบื้องต้น พร้อมส่งข้อมูลให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบ ความถูกต้องของการถือสองสัญชาติ และหากพบการกระทำผิดตามกฎหมาย จะมีการเพิกถอนสัญชาติไทยในลำดับต่อไป
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า “ลี ยงพัด” หรือ “ออกญา ลี ยงพัด” เป็นนักธุรกิจผู้มีอิทธิพลทางการเมืองของกัมพูชา และเป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น Koh Kong SEZ, LYP Group, และ O’Smach Resort & Casino ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจถูกใช้เป็นฐานฟอกเงินและแหล่งปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากต่างประเทศ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งข้อมูลจุดต้องสงสัย 62 แห่งในกัมพูชาให้กับทางการเขมรเพื่อดำเนินการตรวจสอบ แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ย้ำว่า ไทยได้ดำเนินการมาก่อนหน้าประเทศเกาหลีใต้ และยังคงเดินหน้ากดดันให้มีการปราบปรามอย่างจริงจังในระดับระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ประโยคที่เจ้าหน้าที่ไทยระบุว่า “พบเครือข่ายมีความเชื่อมโยงกับบุคคลสัญชาติไทย” อาจหมายถึง นายลี ยงพัด เอง เนื่องจากมีหลักฐานชัดว่า เขาถือบัตรประชาชนไทย และมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา
