
คิดกันไปไกล! ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วางแผนออกไปต่างประเทศ เพื่อไปยาวววว แล้วไม่กลับมาอีก! เพื่อหนีกรณีศาลนัดไต่สวนเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 13 มิ.ย.68 และคดี 112 ที่จะมีการไต่สวนฝ่ายโจทย์-จำเลย อย่างต่อเนื่องในเดือน ก.ค.68 และศาลอาจมีการตัดสินคดี 112 ภายในปีนี้
ดังนั้น ศาลจึงไม่อนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปตะวันออกกลาง ตามคำเชิญของผู้ครองรัฐกาตาร์ ซึ่งการไปต่างประเทศครั้งนี้ของนายทักษิณมีโอกาสที่จะได้เจอกับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา จะมาเยือน 3 ประเทศตะวันกลาง คือ ซาอุฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ เพื่อพูดคุยเจรจาเรื่อง “ภาษีทรัมป์”

ทั้งที่นายทักษิณยังไกลจากกรณีศาลนัดไต่สวนเรื่องชั้น 14 ในวันที่ 13 มิ.ย.68 เพราะ 1. ศาลจะตั้งต้นเรื่องนี้อย่างไร? เนื่องจากนายทักษิณพ้นโทษไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค.67 เมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลฯ โดยมีผู้ต้องราชทัณฑ์ 31,000 คน ได้ลดโทษ-ปล่อยตัว
2. ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด เผยแพร่บทความเรื่องขอบเขตอำนาจตุลาการ มีเนื้อหาสรุปว่าขอบเขตอำนาจตุลาการ กรณีชั้น 14 หากศาลเริ่มคดีเองจะขัดกับหลัก Double Jeopardy
3. ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน อธิบายว่าแม้ศาลจะมีอำนาจไต่สวนเมื่อความปรากฏแก่ศาล แต่เป็นเพียงการใช้ดุลยพินิจเพื่อความสมบูรณ์ของกระบวนการ ไม่ใช่การเปิดเกมใหม่ทางกฎหมาย โดยคดีที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือการบังคับโทษนายทักษิณ การดำเนินการทั้งหมดอยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม มีกฎหมายกำหนดว่าไม่สามารถบังคับโทษทางอาญาในคดีเดียวกันซ้ำอีกได้ เป็นหลักการพื้นฐานของกฎหมายอาญาและสิทธิมนุษยชนสากล
4. กรณี “แพทยสภา” มีมติพักใบอนุญาตฯ แพทย์ 2 คน และว่ากล่าวตักเตือนแพทย์ 1 คน เรื่องนี้ต้องผ่านความเห็นชอบจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะ “สภานายกพิเศษ” ซึ่งนายสมศักดิ์ยังไม่ได้รับหนังสือจากแพทยสภา ถ้ารับหนังสือแล้วยังมีเวลาพิจารณาอีก 15 วัน และนายสมศักดิ์อาจเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับแพทย์สภา ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกเป็นเดือนๆ กว่าจะได้ข้อสรุป
ที่สำคัญแพทย์ 2 คน ที่ถูกพักใบอนุญาตฯ มีสิทธิ์ฟ้องร้องแพทยสภา ต่อศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะจบคดีที่ศาลปกครอง

แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ 1 ในแพทย์ที่ผู้ถูกกล่าวหา ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายว่า อาจมีการยื่นอุทธรณ์ต่อแพทยสภา หรือยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติของแพทยสภา เนื่องจากการพิจารณาเรื่องอาการป่วยมีหลายมิติ โรคที่ผู้ต้องขังเป็นนั้น หลายกรณีเป็นโรคเฉพาะทาง และเป็นอาการป่วยจากโรคเฉพาะทาง จึงไม่สามารถใช้มาตรฐานทั่วไปในการวินิจฉัยได้
โรคเฉพาะทางบางโรค บางอาการ หรือเกือบทุกอาการ ทั้งเรือนจำและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่มีบุคลากร ตลอดจนไม่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์รองรับอาการป่วยลักษณะนี้ จึงต้องตัดสินใจส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ ฉะนั้นจึงไม่ถือว่ากระทำผิดมาตรฐานหรือจริยธรรมทางการแพทย์แต่อย่างใด
5. คดี 112 นัดไต่สวนฝ่ายโจทก์-จำเลย ช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค.68 อย่างต่อเนื่องหลายวัน และไม่แน่ว่าศาลจะตัดสินทันภายในปี 68 หรือไม่ คำตัดสินออกมาได้ทั้งผิด-ถูก-ยกฟ้อง
แต่ถ้าผิดก็อาจจะได้ประกันตัว เพื่อไปต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์-ฎีกา ที่ผ่านมาหลายๆ คน รวมทั้งคนของพรรคประชาชน ที่เจอคดี 112 ก็ได้รับประกันตัวไปสู้ในศาลอุทธรณ์-ฎีกา
ดังนั้นจึงไม่จำเป็น และไม่มีเหตุผลสมควรที่นายทักษิณจะต้องรีบหนีออกไปต่างประเทศในช่วงนี้!!
เสือออนไลน์