
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2022 บริษัท หลักทรัพย์ไอร่าฯ ระบุว่า BANPU ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 17,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% qoq และ 280% yoy ในขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้น 57% qoq และ 208% yoy โดยธุรกิจ ถ่านหินยังคงเป็นตัวทำกำไรหลักของ BANPU ล่าสุดราคาถ่านหิน Newcastle อยู่ที่ 324 USD/ton
ถ่านหินพุ่ง..
ขณะที่ความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ปัจจัยหลักมาจาก Demand ที่เพิ่มขึ้น จากราคาก๊าซที่สูงขึ้น ในขณะที่ Supply จากเหมืองที่อินโดนีเซียไม่สามารถเพิ่มการผลิตได้ทัน ส่งผลให้ราคาขายถ่านหินของเหมือง อินโดนีเซียในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 210 USD/ton เพิ่มขึ้น 87% yoy ขณะที่มีขาดทุนสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน 9,135 ล้านบาท, กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 2,886 ล้านบาท

ธุรกิจก๊าซ..
กำไรฟื้นตัวดีต่อเนื่อง จากราคาขายก๊าซในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 1.27 USD/พันลูกบาศก์ฟุต เพิ่มขึ้น 98% yoy ในขณะที่ล่าสุดราคาก๊าซที่ US Henry Hub อ่อนตัวลงมาเล็กน้อยที่ 6.1-6.2 USD/mmbtu แต่ยังถือว่าสูง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การผ่อนคลาย lockdown ผลจากความไม่สงบ รัสเซีย-ยูเครน

ธุรกิจไฟฟ้า..
ยังคงเป็นตัวเสริมกำไรของ BANPU ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคง จากการถือหุ้น BPP สัดส่วน 78.66% โดยกำไรหลักช่วง 3Q/65 ยังคงมาจากจากโรงไฟฟ้าหงสา และเหมืองภูไฟ จำนวน 39 M.USD ในขณะที่โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวงดีขึ้นเป็นเสมอตัว จากที่เคยขาดทุน

แนะนำซื้อเป้า 18 บาท..
นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าในจีน และธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ที่เพิ่งเข้าซื้อกิจการในปี 2564 และการคว่ำบาตรรัสเซีย ประเมินราคาเป้าหมาย ปี ’66 – 18.00 บาท (SOTP) แนะนำ “ซื้อ”