
ชาวโคกสูงลุกฮือขับไล่พ้นกองร้อยทหารพรานออกพ้นพื้นที่ ขอร้องเอา ตชด.ชุดเก่ากลับมา หลังขึงลวดหนาม ออกคำสั่งห้ามผู้คนสองฟากฝั่งไทย-กัมพูชาเดินทางเข้า-ออก อ้างเหตุลักลอบส่งแรงงานให้ “แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์” หลอกลวงคนไทย เลยขึงลวดหนามตลอดแนวชายแดน ทำเอาชาวบ้านร้านรวงพลอยเดือดร้อนไปกันหมด แม้แต่จะข้ามไปทำไร่-ทำนาบนผืนนาตัวเองยังทำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่กองร้อยทหารพรานที่ 12 บ้านโนนสูง ได้มีชาวบ้านในเขตตำบลโคกสูง และตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูงกว่า 300 คน รวมตัวกันตั้งเวทีประท้วงการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังทหารพรานที่ 12 ที่ประจำอยู่ตามจุดตรวจและจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขตตำบลโคกสูง ตำบลโนนหมากมุ่น โดยอ้างว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กองกำลังทหารพรานทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่เป็นอันกินอันนอน และไม่สามารถจะทำมาหากินได้ แม้แต่การจะเดินทางไปทำไร่ทำนาที่ติดอยู่กับแนวชายแดนก็ทำไม่ได้

โดยตัวแทนชาวบ้านได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวที โจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องว่า นับตั้งแต่กองกำลังบูรพาได้ผลัดเปลี่ยนนำเอากองกำลังทหารพรานเข้ามาประจำตามแนวชายแดน แทนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดน เจ้าหน้าที่ก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางเข้า-ออกของประชาชนในพื้นที่ จนทำให้ประชาชนในพื้นที่ทีมีการเดินทางเข้า-ออกยังจุดผ่อนปรนต่าง ๆ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถจะทำมาค้าขาย หรือดำเนินกิจกรรมกิจการใด ๆ ได้ แม้แต่การออกไปทำไร่ ทำนา หรือเลี้ยงวัวควายในพื้นที่นาที่อยู่ติดกับแนวชายแดน ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาชาวบ้านสองฟากฝั่งมีการเดินทางไปมาหาสู่ และค้าขายเล็ก ๆ น้อยๆ กันมาโดยตลอด และไม่ได้เป็นแต่พื้นที่อำเภอโคกสูงเท่านั้น พื้นที่อื่น ๆ ตั้งแต่อำเภอตาพระยา โคกสูงไปจนถึงอ่างศิลา และบ้านน้อยป่าไร่ ต่างได้นับความเดือดร้อนไม่แพ้กัน และมีการชุมนุมประท้วงในลักษณะเดียวกันมาเป็นระยะ
ล่าสุด หลังมีข่าวครึกโครมกรณีการทลาย “แก๊งค์คอลล์เซ็นเตอร์” ขบวนการจีนที่หลอกลวงคนไทยที่ฝั่งปอยเปตของกัมพูชา ทางทหารพรานได้มีการขึงลวดหนามตลอดแนวชายแดนห้ามการเดินทางเข้า-ออกเข้าไปอีก จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เหลืออดกับพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ จึงรวมตัวกันขับไล่และขอให้ทางจังหวัดและกองกำลังบูรพาได้ย้ายกองกำลังทหารพรานออกไป นำเอา ตชด.กลับมา โดยตลอดการประท้วงนั้น ตัวแทนชาวบ้านได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา และยกระดับโดยขู่ที่จะยกระดับการชุมนุมประท้วงถึงขั้นปิดถนนสายหลักเส้นทางอรัญ-ตาพระยาต่อไปด้วย หากไม่ได้รับการแก้ไข ขณะที่ทางฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สังเกตุการณ์และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ชาวบ้านส่งตัวแทนเข้าร่วมเจรจากับทางฝ่ายปกครองและกองกำลังทหารพรานเพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย ขณะนี้สถานการณ์ยังคงไม่มีทีท่าจะยุติ