ความสำเร็จของการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ของประเทศไทยจนได้รับคำชื่นชม กล่าวขานจากประชาคมโลกนั้น ไม่เพียงจะมาจากความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นร่วมกันแก้ไขปัญหา
อีกหนึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จ ยังมาจากความช่วยเหลือที่ถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจประชาชนให้ลุกขึ้นต่อสู้กับวิกฤติครั้งนี้ ก็คือ ความช่วยเหลือจากน้ำพระราชหฤทัยที่พระราชทานเครื่องช่วยหายใจ และเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่การกระทรวงสาธารณสุข น.พ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อรับพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย จำนวน 13 คัน เพื่อกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์ ณ สำนักงานเขตสุขภาพที่ 1 - 12 ทั่วประเทศ และเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่กระทรวงสาธารณสุขดูแลรับผิดชอบ เพื่อใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บตัวอย่างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ให้แก่ประชาชนเชิงรุก ในโรงเรียน วัด ชุมชนแออัด และกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวัง และดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความว่า “...มีคนถวายรถต้นแบบมา ก็ได้รับการปรับปรุงทดสอบ แล้วก็ดูความเหมาะสม ก็หลังจากปรับปรุงทดสอบแล้วก็ทราบว่ามีความเหมาะสม และเป็นหนึ่งในเครื่องมือเครื่องใช้ที่จะช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา ก็จึงได้จัดรถเพิ่มเติมให้ ก็รู้สึกยินดีแล้วก็ภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหาให้กับงานของท่าน ซึ่งเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ นี่เป็นส่วนประกอบสำคัญ เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ นี่เป็นส่วนประกอบสำคัญ แต่หลัก ๆ ก็มาจากคน อะไรที่สำคัญในคน ก็ทัศนคติที่ดี เข้าใจปัญหา มีทัศนคติที่ดี แล้วก็ความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด เมื่อมีเครื่องมือเครื่องใช้มาสนับสนุน ก็ใช้เครื่องมือเครื่องใช้ให้ถูกจุด ใช้ให้เป็นประโยชน์ แล้วก็เสริมในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ในตอนนี้ ประเทศไทยเราก็เป็นที่น่ายินดีที่ว่าได้รับการชมเชย การกล่าวขวัญในทางที่ดีจากประชาคมโลก เพราะว่าเราก็มีดี เรามีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจ ก็คิดว่าสุขภาพที่ดี หรือการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ กับอุปสรรคต่าง ๆ นี่ ถ้าเผื่อมีทัศนคติที่ดี มีความตั้งใจ ก็ได้กับประชาชนส่วนรวม อย่างที่บอกว่าประชาชนมีความสุข ประเทศมีความมั่นคง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัญหาต้องมี อุปสรรคต้องมีเสมอ แต่ถ้าเรามีความมั่นคง มีความอยากให้ประชาชนมีความสุข มีทัศนคติที่ดี ประชาชนก็มีความสุข พวกเราก็มีความสุข เพราะเราก็คือประชาชน
ก็ขอเป็นกำลังใจ และก็ขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่ได้ทำงานมา และก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อย่างเดียว ประชาชนร่วมมือ คนมีทัศนคติที่ดี นี่คือนิสัยของคนไทย มีน้ำใจ มีความนุ่มนวล มีคุณธรรม ช่วยกันไป อะไรหนัก ๆ ก็เบาลง ตอนนี้ก็ภูมิใจที่บ้านเราก็ได้รับการชมเชย และบ้านเราก็ไม่ด้อยกว่าใคร”
ไม่เพียงแต่ความช่วยเหลือจากน้ำพระราชหฤทัยที่พระราชทานเครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือแพทย์โดยตรงแล้ว อีกหนึ่งความช่วยเหลือที่ถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจประชาชนให้ลุกขึ้นต่อสู้กับวิกฤติครั้งนี้ ก็คือน้ำพระราชหฤทัยที่พระราชทานถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบวิกฤติในครั้งนี้ รวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ด้วย
โดยหนึ่งในน้ำพระราชหฤทัยที่พระราชทานแก่ประชาชนที่ประสบวิกฤตทั้งหลาย ที่ถือเป็นน้ำพระราชหฤทัยที่มีต่อพสกนิกรให้มีกำลังใจต่อสู้เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคหรือวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ก็คือน้ำพระราชหฤทัยในการพระราชทานถุงยังชีพ และตั้งโรงครัวพระราชทานนั่นเอง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับราษฎร โดยทรงจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ประสบกับภาวะวิกฤตเพื่อประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งได้พระราชทานถุงยังชีพที่ภายในเต็มไปด้วยข้าวของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง ยาสามัญประจำบ้าน สบู่ แชมพู ผงซักฟอก หน้ากากผ้า ฯลฯ ทั้งยังมีข้าวของจิปาถะอย่างทิชชูและถุงขยะ อันแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียดที่ทรงมีต่อประชาชนผู้เดือดร้อนที่กำลังเผชิญวิกฤตทั้งหลาย
ในส่วนของถุงยังชีพพระราชทานนั้น ด้วยความที่ถุงยังชีพมีน้ำหนักมาก เวลาแจกจ่ายประชาชนในบางครั้ง บางพื้นที่หากจะต้องให้ประชาชนไปยืนเข้าคิวรับแจก อาจสร้างความยุ่งยากเดือดร้อนให้กับประชาชนอีก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนยุ่งยากของผู้ที่จะเข้ามารับถุงยังชีพพระราชทาน จึงทรงให้เจ้าหน้าที่และจิตอาสาเชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบแก่ประชาชนตามชุมชนต่าง ๆ ถึงหน้าบ้านของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยไม่ต้องลำบากในการเดินทางมารับของพระราชทาน ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดมิได้
ขอบคุณภาพจากเพจ : หน่วยราชการในพระองค์